พลังม็อบคนรุ่นใหม่ ความสุ่มเสี่ยงที่รัฐพึงต้องฟัง

2020-07-19 13:15:25

พลังม็อบคนรุ่นใหม่  ความสุ่มเสี่ยงที่รัฐพึงต้องฟัง

Advertisement

ไม่ว่าใครหรือหน่วยงานไหน ก็ไม่ควรมองข้ามพลังของคนรุ่นใหม่เด็ดขาด

โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีหลัง การรวมตัวเคลื่อนไหวในเชิงสัญญลักษณ์ทางการเมือง ทั้งโดยรวมกลุ่มแบบตัวจริงเสียงจริง และผ่านออนไลน์ในช่วงโควิด19 กำลังแพร่ระบาด

เชื่อมต่อสืบทอดกิจกรรมที่คนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งริเริ่มไว้ตั้งแต่การชู 3 นิ้วและกินแซนวิส เมื่อปี 57 สัญญลักษณ์คัดค้านต่อต้านการรัฐประหารของคสช.

พร้อม ๆ กับการก่อกำเนิดกลุ่มนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง คอยขยับเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลคสช.เป็นระยะๆ




เช่นเดียวกับการถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับพรรคอนาคตใหม่และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากผู้มีอำนาจภาครัฐ

การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่กับธนาธรและพรรคอนาคตใหม่(ตอนหลังเปลี่ยนเป็นคณะก้าวหน้า) จึงสอดรับประสานกันเรื่อยมา รวมถึง การจัดกิจกรรมแฟลชม็อบที่สยาม ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เพราะจากนั้น แนวร่วมที่ขานรับชัดเจนและต่อเนื่องไม่เพียงกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเท่านั้น แต่ยังขยายลามไปถึงระดับมัธยมปลาย ใกล้"จุดติด"



ระหว่างเตรียมจัดกระบวนทัพใหม่จากต่างคนต่างมหาวิทยาลัยต่างจัดกิจกรรมไปเป็นรวมตัวจัดกิจกรรมหนึ่งเดียวกัน ก็เป็นเหตุบังเอิญเป็นช่วงโควิด 19 แพร่ระบาดหนัก รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดโอกาสการรวมตัวของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา อย่างเฉียดฉิวที่สุด

การจัดรวมพล"คนไม่ทนรัฐบาล"ล่าสุดของเยาวชนปลดแอก ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงเป็นภาคต่อครั้งแรก หลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย

อีกทั้งเป็นผลพวงจากแรงกดดันเรื่องจำกัดสิทธิเสรีภาพและการแสดงออก จากกรณี 2 ตัวแทนเยาวชนภาคตะวันออกที่ถูกตำรวจอุ้มตัวระหว่างชูป้ายด่ารัฐบาลขณะ"บิ๊กตู่"และคณะลงพื้นที่จ.ระยอง จากกรณีทหารอิยิปต์ติดโควิด 19 เที่ยวเดินเพ่นพ่านในตัวเมือง



จุดกระแสความพุ่งพล่านร้อนแรงให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลั่งไหลไปร่วมแสดงพลังที่ลานอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยมากมายกว่าที่คาดคิด

แม้นจะเป็นการจัดงานแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่มีเวลาตระเตรียมงานเสียด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ แกนนำเริ่มต้น 4 คนก็เป็นระดับธรรมดาสามัญ ทั้งเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ขาประจำต้อต้านรัฐบาล"บิ๊กตู่" หรือจุฑาทิพย์ ศิริขันธุ์ หลานสาวเตียง ศิริขันธุ์ อดีตแกนนำเสรีไทยภาคอีสาน อดีตส.ส.สกลนคร และนักต่อสู้ทางการเมืองหลังอภิวัฒน์ประเทศไทย ปี 2475




ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หยุดคุกคามสิทธิเสรีภาพ และแก้รัฐธรรมนูญปี 60 มีแนวโน้มสูงไม่น้อยที่จะโดนใจผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ชื่นชอบรัฐบาลอยู่ก่อนแล้ว และอาจเข้าร่วมเป็นแนวร่วมสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งต่อๆไป

ย้อนอดีตกลับไป การเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาที่ไม่พอใจรัฐบาล และกลุ่มผู้เสพอำนาจและผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง สุดท้ายนำไปสู่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และโค่นล้มขับไล่รัฐบาลเผด็จการ เปิดประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งสำเร็จมาแล้ว

ครั้งนี้ แม้คนในรัฐบาลและกูรูที่เป็นแนวร่วมของรัฐ จะประสานเสียง"จุดไม่ติด"อีกเช่นเดิม แต่ก็มีเสียงร้องเตือนสอดแทรกเช่นกันว่า อย่าได้ประมาทหรือปรามาสว่าจะ"จุดไม่ติด" และไม่ใส่ใจรับฟังความเห็น หรือคิดเพียงจะสลายกลุ่มพลังโดยอ้างเหตุผลเก่าๆแบบเดิมๆ

หาไม่แล้ว อาจมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้



อย่าลืมครับว่า ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่อยู่เหนืออำนาจของประชาชนได้ตลอดกาล