"พิธา"ลั่นเป้าหมาย "ก้าวไกล"นำพา กทม. เป็นนคราภิวัฒน์อย่างสมบูรณ์

2020-07-18 22:55:34

"พิธา"ลั่นเป้าหมาย "ก้าวไกล"นำพา กทม. เป็นนคราภิวัฒน์อย่างสมบูรณ์

Advertisement

"พิธา" นำทีม ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล แลกเปลี่ยนว่าที่ผู้สมัคร สก.  ระบุเป้าหมายของพรรคต้องการนำพา กทม. ไปสู่ความเป็นนคราภิวัฒน์อย่างสมบูรณ์ ย้ำนโยบายต้อง"ใหม่ชัดโดน" 

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พรรคก้าวไกล เปิดรับผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ สก. พร้อมพบปะพูดคุย กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงส.ส.กทม.  พรรคก้าวไกล อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน

ทั้งนี้นายพิธาได้ร่วมหารือ กับสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร สก.ว่าเป้าหมายของพรรคต้องการนำพา กทม. ไปสู่ความเป็นนคราภิวัฒน์อย่างสมบูรณ์ ต้องอาศัยกลไกทางภูมิศาสตร์สถาปัตย์นิติศาสตร์รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์รวมถึงการศึกษา และสาธารณสุข  พร้อมสะท้อน ให้เห็นถึงแนวคิด มุมมองต่อความเป็นนคราภิวัฒน์ ซึ่งประกอบด้วยการสร้างกรุงเทพฯให้เป็นเมืองแห่งประชาธิปไตยซึ่งต้องไม่เป็นเมืองที่ไม่ใช่ระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ขณะเดียวกัน ต้องเป็นเมืองแห่งความหลากหลาย ไม่ว่าจะยากดีมีจน จะต้องได้รับความเท่าเทียมจากการออกแบบเมืองอย่างเสมอภาค โดยเฉพาะโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรและทำมาหากิน ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การเป็นเมืองของทุกคน และเมืองจะต้องถูกพัฒนา ด้วยเทคโนโลยีให้เกิด การยกระดับไปสู่ เมืองแห่งความเป็น smart City อย่างแท้จริง โดยเชื่อว่านโยบายที่จะตอบสนองคนกรุงเทพฯในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงคือต้องมีความ"ใหม่ชัดโดน"


นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่านโยบาย ที่จะนำไปสู่การพัฒนา กทม.หรือท้องถิ่น ต้องเป็นนโยบาย ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่นโยบายแบบปะพุ ซึ่งทั้งหมดจะเน้นการกระจายอำนาจ กระจายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น เพราะระบบราชการรวมศูนย์ไม่ได้ตอบโจทย์การทำงานของประชาชน เช่น การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีรวมถึงงบเงินกู้ ที่มีแนวโน้มจะถูกนำไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย และไม่เกิดกับประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นการดำเนินงาน ที่จะพัฒนาท้องถิ่น จะต้องตอบโจทย์คนในพื้นที่ผ่านการกระจายอำนาจ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของคนในพื้นที่มากที่สุด ซึ่งเป็นที่มาของการเปิดรับผู้สมัครสก.ในวันนี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องการเห็นบุคคลที่มีศักยภาพ และเข้าใจคนในพื้นที่ เข้าใจปัญหาของพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจหน้าที่ทางการเมือง หรือเป็นลูกหลานนักการเมือง ซึ่งยืนยันว่า บุคคลที่เข้ามา จะต้องไม่มีลักษณะของการตอบแทนพวกพ้องหรือเอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง


ด้าน น.ส.วรรณวรี ยืนยันว่าการทำงานทางการเมืองในภาคท้องถิ่น โดยเฉพาะในส่วนของ กทม.จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ แสดงความคิดเห็น ว่าต้องการเห็นกรุงเทพฯเป็นอย่างไรอย่างเห็นทิศทางของเมืองหลวงในทิศทางใด ด้วยความรู้ความสามารถของคนธรรมดา ซึ่งได้ผ่านการพิสูจน์แล้ว จากการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่พร้อมรับฟังประชาชนเสมอ ตั้งแต่วันแรก ที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่จนถึง การเป็นพรรคก้าวไกล ในปัจจุบัน