ผอ.วอน"ผู้ใจบุญ"ช่วยเด็ก ป.6 ดูแลแม่พิการตาบอด

2020-07-17 17:05:48

ผอ.วอน"ผู้ใจบุญ"ช่วยเด็ก ป.6 ดูแลแม่พิการตาบอด

Advertisement

ผอ.โรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก วอนผู้ใจบุญช่วย "เด็ก นร." ยอดกตัญญู ดูแล "แม่" พิการตาบอดเพียงลำพัง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายธาดา ธิกุลวงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยเรื่องราวของ ด.ญ.สุดารัตน์ สมหวัง หรือน้องเตย อายุ 12 ปี นักเรียนหญิงชั้น ป.6 ซึ่งเป็นนักเรียนเรียนดีแต่ฐานะยากจน แถมยังต้องแบกภาระดูแลแม่ที่พิการตาบอด ว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา น้องเตย ได้มาขอลาออกจากโรงเรียน จึงถามเด็กว่าทำไมถึงมาขอลาออกทั้งที่ผลการการเรียนดี น้องเตย ตอบกลับมาว่าจะไปหางานทำ เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและรักษาแม่ เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน ประกอบกับพ่อแยกทางกับแม่ไปก่อนหน้านี้ ตนจึงนำเรื่องราวของเด็กไปลงโซเชียล จนมีผู้ใจบุญช่วยกันบริจาคเงินกว่า 25,000 บาท เพื่อต้องการช่วยเหลือเด็กหญิงให้ได้เรียนจบชั้น ป.6 ก่อนหาทางช่วยเหลือต่อ ขณะนี้ปิดรับบริจาคแล้วเพื่อป้องกันปัญหาหากได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวนมาก

นายธาดา กล่าวอีกว่า หลังจากได้รับเงินบริจาค น้องเตย จึงยอมมาเรียนหนังสือ ซึ่งทางโรงเรียนอนุญาตให้น้องเตย พาแม่มาโรงเรียนด้วย เนื่องจากแม่ที่พิการตาบอดอาจได้รับอันตรายหากต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของน้องเตย โดยทางเข้าเป็นถนนลูกรังประมาณ 5 กิโลเมตร และเป็นทางเปลี่ยวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ถ้าช่วงหน้าฝนถนนก็จะเละ เด็กที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนจะเดินทางเข้า-ออกลำบาก ส่วนสภาพบ้านเด็กเป็นบ้านกระต๊อบ หลังคาสังกะสีเก่ามีรูรั่วจำนวนมาก ขณะที่พื้นบ้านและฝาบ้านทำจากไม้ไผ่ ซึ่งเด็กอาศัยอยู่กับแม่อยู่เพียง 2 คน




ด้าน นางวรรณา สมหวัง อายุ 42 ปี แม่ของน้องเตย กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 19 ปีมีครอบครัวแยกออกไปทำงานแล้ว ส่วนสามีก็หนีไปหลังจากที่ตนป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง เมื่อเข้ารับการผ่าตัดตาข้างขวาก็มองไม่เห็น ส่วนตาซ้ายก็เห็นแบบลางๆ ในตอนกลางวันที่มีแสงแดด ส่วนเวลากลางคืนแทบจะมองไม่เห็นเลย ตอนนี้อยู่บ้านกับน้องเตย ครอบครัวมีความเป็นอยู่ลำบากมาก สงสารลูก ไม่มีเงินให้ลูกไปกินที่โรงเรียน บางครั้งคิดอยากตาย แต่ทำไม่ได้เพราะคิดถึงลูก บางวันลูกไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ต้องไปรับจ้างได้ค่าแรงวันละ 200 บาท เมื่อได้เงินมาตนกฌจะให้เงินไปโรงเรียนวันละ 20 บาท แต่ลูกก็เหลือเงินกลับบ้านเท่าเดิมทุกวัน ลูกบอกว่าหิวแต่ก็ยอมอดเพื่อเก็บเงินไว้พาแม่ไปหาหมอ โชคดีที่ ผอ.โรงเรียน และครู ใจดี ช่วยห่ออาหารให้ลูกนำกลับมาทานที่บ้าน ส่วนลูกสาวคนโตก็ช่วยเหลือบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้อยากวิงวอนขอให้ผู้ใจบุญ ช่วยบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกได้เรียนสูงๆ ถ้าเงินเหลือก็จะนำไปรักษาตัวเองให้หาย เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูก

ขณะที่ น้องเตย กล่าวว่า ทุกวันนี้จะตื่นประมาณตีห้าครึ่งเพื่อหุงข้าว ล้างจาน ทำงานบ้าน จัดตารางเรียน ก่อนหาข้าวให้แม่กินแล้ว จากนั้นจะขี่รถจักรยานยนต์พาแม่นั่งซ้อนท้ายไปโรงเรียนด้วย ตนไม่กล้าปล่อยให้แม่อยู่บ้านคนเดียวเนื่องแม่ตามองไม่เห็น ประกอบกับกล้ามเนื้อของแม่อ่อนแรง ทำอะไรไม่ไหว บางครั้งแม่มีอาการชักเกร็ง จึงต้องพาแม่ไปโรงเรียนด้วย เมื่อไปถึงก็ให้แม่นั่งรอที่บ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน พอเลิกเรียนก็พาแม่กลับบ้าน หนูสงสารแม่ ขอลาออกจากโรงเรียนเพื่อที่จะได้มีเวลาไปรับจ้างหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและพาแม่ไปหาหมอ แต่ทาง ผอ.ไม่ยอมให้ลาออก และยังช่วยหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายให้หนูได้เรียนต่อจนจบ ป.6 ตอนนี้หนูคิดถึงพ่อ อยากให้พ่อกลับมาอยู่กับแม่ มาอยู่กับครอบครัว มาดูแลแม่ หนูขอขอบคุณท่าน ผอ.คุณครูทุกท่าน และผู้ใจบุญทุกคนที่ช่วยบริจาคเงินมาช่วยให้หนูได้เรียนต่อ หนูอยากวิงวอนท่านผู้ใจบุญให้ช่วยพาแม่ไปรักษาอาการตามองไม่เห็น ถ้าหนูได้เรียนสูงๆ จะเป็นหมอมารักษาแม่ รักษาพ่อ และรักษาคนอื่นๆ ด้วย