"จุรินทร์"บุกตลาดลำไยจับคู่ธุรกิจออนไลน์ตั้งเป้า 550 ล้าน

2020-07-16 19:05:57

"จุรินทร์"บุกตลาดลำไยจับคู่ธุรกิจออนไลน์ตั้งเป้า 550 ล้าน

Advertisement

"จุรินทร์" นำพาณิชย์บุกตลาดลำไยจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ 2 วัน ตั้งเป้า 10,000 ตัน 550 ล้าน

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ติดตามงานที่มอบหมายกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดำเนินการช่วยเกษตรกรหาตลาดลำใย ด้วยกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) สินค้าลําไยและผลิตภัณฑ์จากลําไย  ทั้งนี้นายจุรินทร์ พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และคณะ ได้เยี่ยมชมการจัดพบปะออนไลน์นี้พร้อมประชุมติดตามด้วยระบบคอนเฟอเรนซ์ ข้ามประเทศและติดตามการรายงานงานกับพาณิชย์จังหวัดกับผู้ประกอบการพร้อมกันด้วย


นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องของการที่จะหาตลาด ในประเทศให้กับลำไย ในช่วงโควิดโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายให้กับลูกค้าต่างประเทศมาใช้ระบบออนไลน์ด้วยการจัดระบบการจับคู่ทางธุรกิจ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศให้มาพบกันบนออนไลน์ซึ่งการจัดจับคู่ธุรกิจเที่ยวนี้ประกอบด้วยผู้ส่งออกไทย 27 รายและผู้นำเข้าจาก 8 ประเทศ 65 บริษัทด้วยกัน ซึ่งปกติตลาดลำไยส่งออกของไทยเกือบจะเรียกได้ว่าทั้งหมด เป็นตลาดจีน มีเวียดนามบ้างบางส่วนซึ่งเวียดนามก็ส่งออกไปยังจีน และมีอินโดนีเซียส่วนหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้เป็นเป้าหมายที่เราต้องการที่จะขายตลาดเพิ่มเติมนอกจากตลาดจีน ตลาดอินโดนีเซีย ก็มีการนำผู้นำเข้าจากประเทศอื่นๆมาร่วมจับคู่ทางธุรกิจออนไลน์ร่วมด้วย ประกอบด้วยฮ่องกง อินเดีย บังคลาเทศ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน ฝรั่งเศส นอกเหนือจากประเทศจีน ซึ่งจะเป็นช่องทางการขยายตลาดเพื่อเตรียมตลาดสำรองไว้นอกจากตลาดจีน รวมทั้งสำรองไว้นอกจากตลาดอินโดนีเซียซึ่งคาดว่าจะมีการจับคู่ทำสัญญากันได้ไม่ต่ำกว่า 290 คู่ สำหรับการดำเนินการเที่ยวนี้ในช่วงสองวันคือวันนี้กับวันพรุ่งนี้ ก็มีเป้าหมายทั้งหมด 11,000 ตันและในวงเงินคาดว่าประมาณ 550 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ ซึ่งในช่วงยังไม่ครบวันสำหรับวันนี้ขายไปได้แล้ว 4,000 กว่าตันโดยขายให้กับชิงเต่าจากประเทศจีน แต่ก็มีการทำสัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงระยะเวลานี้ สำหรับแผนงานต่อไปในเดือนหน้าก็จะจัดรูปแบบลักษณะนี้อีกครั้งหนึ่งโดยจะเพิ่มในตลาดเมียนม่า ตลาดมาเลเซีย ตลาดญี่ปุ่น และตลาดไต้หวัน นอกจากตลาดจีนซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลักของเรา

นายจุรินทร์ กล่าวว่าผลผลิตลำไยที่คาดการณ์ไว้สำหรับปีนี้จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์  คาดการณ์ไว้โดยกระทรวงเกษตร แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มาเจอปัญหาช่วงนี้ ในเรื่องของคุณภาพเพราะว่าเจอฝนก็ทำให้ตลาดพรีเมียมของเราโดยเฉพาะตลาดจีนติดขัด เนื่องจากผู้ส่งออกของเราบอกว่าทำให้ลำไยผิวคล้ำขึ้นซึ่งตลาดจีนต้องการผิวสีอ่อนและสวยลูกใหญ่ถ้าตลาดผิวคล้ำอาจจะเป็นที่ต้องการของประเทศอินโดนีเซีย ต้องปรับตลาดไปสู่ตลาดอินโดนีเซียให้มากขึ้นรวมทั้งตลาดใหม่ๆที่เราเตรียมการไว้