นายจอห์น เควิน สติทท์ ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา ทางภาคกลางตอนล่างของสหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อวันพุธ ว่า เขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และตอนนี้กำลังกักตัวและรับการรักษาพยาบาลอยู่ที่บ้านพัก การเปิดเผยทำให้เขากลายเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกของสหรัฐ ที่ติดเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดรุนแรงอยู่ทั่วประเทศ
สติทท์ วัย 48 ปี นักการเมืองพรรครีพับลิกัน เผยว่า ก่อนหน้านี้เขารู้สึกสบายและร่างกายแข็งแรงดี แต่เริ่มรู้สึก “คันตามร่างกาย” เล็กน้อย เมื่อวันอังคาร (13 ก.ค.) จึงเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ และพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ภรรยาและลูกๆ ของเขา ซึ่งเข้าตรวจพร้อมกัน ไม่มีใครปรากฏผลเป็นบวก
สติทท์นับเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยอย่างแรง กับมาตรการล็อกดาวน์ คัดค้านมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยทั่วเขตรัฐ ซึ่งตัวเขาเองแทบจะไม่เคยสวมหน้ากาก เมื่อปรากฏตัวต่อสาธารณะ และยังพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ สำหรับแผนการเปิดธุรกิจอีกครั้ง
สติทท์เข้าร่วมการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเมืองทัลซาเมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของรัฐโอคลาโฮมา เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่า การชุมของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันในครั้งนี้ น่าจะมีส่วนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นในเมืองทัลซาเมื่อเร็วๆ นี้ แต่สติทท์มั่นใจว่า เขาไม่ได้ติดเชื้อจากการร่วมชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว
การประกาศของสติทท์ มีขึ้นขณะที่สำนักงานสาธารณสุขรัฐโอคลาโฮมารายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใหม่ในเขตรัฐ สูงเป็นสถิติ 2 วันติดต่อกัน ด้วยจำนวน 993 คนในวันอังคาร และ 1,075 คนในวันพุธ และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในโอคลาโฮมา ล่าสุดเพิ่มขึ้นมากกว่า 22,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 คนเมื่อวันพุธ เป็นทั้งหมด 432 คน.