"วัชระ" ยื่นหนังสือนายกฯ ยกเลิกการประกาศพืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตราย ไม่ว่าเป็นประเภทที่ 1 หรือ 2
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นจดหมายพร้อมนำต้นตะไคร้หอม สะเดา ข่า ขมิ้นชัน คื่นฉ่าย และสมุนไพรที่ถูกคณะกรรมการวัตถุอันตรายขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายมามอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยยื่นผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เนื้อหาในจดหมายได้ขอให้ถอดพืชสมุนไพร 13 รายการออกจากบัญชีวัตถุอันตรายทุกประเภท ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ขอให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย กำหนดให้พืชสมุนไพร 13 ชนิด คือ สะเดา ชา/กากเมล็ดชา ข่า ขิง ขมิ้นชัน ตะไคร้หอม สาบเสือ ดาวเรือง พริก ขึ้นฉ่าย ชุมเห็ดเทศ ดองดึง และหนอนตายยาก เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 2 ให้ขยับเป็นประเภทที่ 1 นั้น ตนขอคัดค้านประกาศของคณะกรรมการวัตถุอันตรายดังกล่าว และไม่เห็นด้วยในการประกาศให้พืชสมุนไพรทั้ง 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายไม่ว่าเป็นประเภทที่ 1 หรือ 2 ก็ตาม เพราะพืชสมุนไพรทั้ง 13 ชนิด ไม่ใช่วัตถุตามพจนานุกรมไทย พ.ศ.2560 หมายถึง สิ่งของ พืชสมุนไพรเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่วัตถุ และเป็นสมุนไพรพื้นบ้านมาแต่โบราณกาลใช้ในการประกอบอาหารนานาชนิด และมีผลในการรักษาโรคแผนโบราณ
นายวัชระ กล่าวว่า การประกาศพืชสมุนไพร 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตราย สร้างภาพพจน์เสียหายให้ประเทศในสายตาของนานาชาติ ซึ่งสมุนไพรทั้ง 13 ชนิด ไม่เป็นวัตถุอันตรายหรือมีอันตรายใดๆต่อผู้บริโภคเลยแม้แต่น้อย จึงสงสัยมากว่าข้าราชการมีเหตุผลอย่างใรในการนำพืชสมุนไพรพื้นบ้านไปขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตราย เป็นการจำกัดสิทธิ์ สร้างความยุ่งยากให้กับเกษตรกรหรือไม่ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนใหญ่ในอนาคตหรือไม่ ข้าราชการไม่ควรสร้างความยุ่งยากหรือออกระเบียบกฎหมายให้กระทบต่อวิถีชีวิตปรกติของพี่น้องประชาชน นายกรัฐมนตรี ต้องยกเลิกการขึ้นทะเบียนสมุนไพรเป็นวัตถุอันตรายทันที อย่าให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลมากไปกว่านี้