"ดร.รยุศด์" ถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาล และ ศบค. จะให้ผ่านไปง่ายๆไม่ได้ แนะ ไทยชนะ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้ามีไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ต้องยกเลิก
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ดร.รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นทหารจากประเทศอียิปต์ ที่ จ.ระยอง และเด็กหญิงอายุ 9 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวคณะทูตจากประเทศซูดานนั้น ตนและพรรคสามัคคีไทยขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบุคคลที่เดินทามาจากต่างประเทศว่าควรจะต้องมีการทบทวนและยกเลิกก่อนหรือไม่ เพราะในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีการตรวจพบเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมากกว่า 1 เดือนแล้ว การมีนโยบายผ่อนปรนสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่อย่างไรก็ตาม การรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจำเป็นต้องมาพร้อมกับมาตรการที่รัดกุมเพื่อดูแลรักษาคนในประเทศ การที่ผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าประเทศได้ ไม่ต้องกักตัว และยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ จึงเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ ถือเป็นความล้มเหลวสูงสุดของ ศบค. และ รัฐบาล
ดร.รยุศด์ กล่าวต่อว่า ระบบไทยชนะหรือระบบติดตามผู้ติดเชื้อต่างๆ ก็ไม่ถูกนำมาใช้ในการให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างทันท่วงทีจนเกิดความตื่นตระหนกในสังคม จึงก่อให้เกิดการตั้งคำถามต่อไปอีกว่าระบบไทยชนะหรือระบบติดตามคนต่างๆ หากจุดประสงค์ไม่ใช่การนำมาใช้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนแล้ว จุดประสงค์ของระบบต่างๆ นั้นคืออะไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติในการปิดบังข้อมูลของรัฐบาลที่ไม่มีการให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา และทันท่วงที กว่าจะมีการชี้แจงอีกทีก็ทำให้สังคมแตกตื่นไม่สบายใจไปแล้ว ขณะเดียวกันการคงพรก.ฉุกเฉิน ไว้ แต่ไม่สามารถจัดการคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ หรือแก้ไขสถานการณ์โควิดได้ จะมีไว้ทำไม หรือรัฐบาลจะใช้เป็นข้ออ้างในเรื่องของการรักษาระเบียบและป้องกันการระบาด แต่กลับเป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเสียเอง ทั้งๆ ที่ผ่านมาประชาชนต่างพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลป้องกันตนเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลได้อย่างไร ทางพรรคสามัคคีไทยจึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาล และ ศบค.แสดงความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และมีการลงโทษผู้เกี่ยวข้องต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก จะให้ผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้ เหมือนกับที่ ศบค.เคยเน้นยำมาตลอด
ดร.รยุศด์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังจำกัดประเภทของผู้เดินทางเข้าประเทศและยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว แต่เพียงเท่านี้ทางรัฐบาลยังไม่สามารถทำตามกฎระเบียบที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดและป้องกันความเสี่ยงจากการระบาดโควิด-19 ได้ แล้วในอนาคตเมื่อมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชาชนชาวไทยรวมถึงนานาชาติจะให้ความไว้วางรัฐบาลไทยในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ที่พำนักอาศัยในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้อย่างไร