ศาลจังหวัดสระแก้ว มีคำสั่งประหารชีวิต 2 นักการเมืองท้องถิ่น คดีฆาตกรรมเจ้สายันต์ เจ้าแม่ตลาดโรงเกลือ
วันที่ 14 ก.ค. ศาลจังหวัดสระแก้ว อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ประหารชีวิต 2 พี่น้องตระกูลมากสาคร นักการเมืองท้องถิ่นคนดังของจังหวัดสระแก้ว หลังพัวพันคดีฆาตกรรมเจ๊สายันต์และสามี เมื่อช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยศาลให้ชดใช้ครอบครัวผู้ตายเป็นเงินถึง 4 ล้านบาท พร้อมตั้งวงเงินประกันตัวไว้คนละ 1 ล้านบาท ส่วนทีมร่วมก่อเหตุที่เหลืออีก 4 คน ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
หลังจากตำรวจ จับกุมผู้ต้องหาหลายคน ในคดีฆาตกรรมเจ๊สายันต์ หรือ นางสายันต์ จันทา พร้อมสามี คือนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง สองสามีภรรยานักธุรกิจตลาดโรงเกลือ ตลาดบ้านเขาดิน และยังเป็นเจ้าของตลาดเบญจวรรณ โดยในวันเกิดเหตุได้ถูกกลุ่มคนร้าย ใช้มีดปลายแหลม แทงจนเสียชีวิตภายในบ้านพักที่อำเภอคลองหาด เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 29 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา
ซึ่งในคดีนี้ อัยการสระแก้วเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1 นายวิชัย หรือนายต่อ จำเลยที่ 2 นายนพรุจ หรือนายต้อม จำเลยที่ 3 นายวิชิต หรือนายโล๊ะ จำเลยที่ 4 ร.อ.สุเทพนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาด หรือนายกเต่า จำเลยที่ 5 ร.อ.ทองวราห์ รองประธานสภา อบจ.สระแก้ว และจำเลยที่ 6 นางมณีรัตน์ หรือ เจ๊เยาว์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยศาลชั้นต้น ได้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 คือนายวิชัย หรือนายต่อ จำเลยที่ 2 คือนายนพรุจ หรือนายต้อม จำเลยที่ 4 ร.อ.สุเทพ หรือนายกเต่า และจำเลยที่ 5 ร.อ.ทองวราห์ หรือคนสระแก้วรู้จักกันในนาม ส.จ.ทองทศ เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่มีน้ำหนักพอที่ศาลจะรับฟังได้
ส่วนจำเลยที่ 6 คือนางมณีรัตน์ หรือ เจ๊เยาว์ ถูกตัดสินจำคุกในข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ขณะที่จำเลยที่ 3 คือนายวิชิต หรือนายโล๊ะ ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาคดี รวมถึงประจักษ์พยานจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
จากนั้น อัยการสระแก้ว จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นอุทธรณ์ในคดีนี้อีกครั้ง จนกระทั่งศาลชั้นอุทธรณ์ มีคำพิพากษาในช่วงบ่ายวันนี้ (14 ก.ค.63) โดยให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 นายวิชัย หรือ นายต่อ จำเลยที่ 4 ร.อ.สุเทพ หรือ นายกเต่า และจำเลยที่ 5 ร.อ.ทองวราห์ หรือ ส.จ.ทองทศ ส่วนจำเลยที่ 6 นางมณีรัตน์ หรือ เจ๊เยาว์ จำคุกตลอดชีวิต และจำเลยที่ 2 นายนพรุจ หรือนายต้อม ศาลยกฟ้อง โดยศาลยังให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ซึ่งหลังจากครอบครัวผู้ตาย ฟังคำพิพากษาแล้ว ได้เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า น้อมรับคำตัดสิน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางครอบครัวฝ่ายจำเลย ต้องรีบหาหลักทรัพย์มาประกันตัว คนละประมาณ 1 ล้านบาท หากหาหลักทรัพย์ไม่ทัน จะต้องถูกส่งตัวฝากขังยังเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ก่อนจะยื่นคัดค้านในศาลชั้นฎีกาต่อไป