ทหารอียิปต์จัดให้ กินนอนเดินเที่ยวไทยพร้อมโควิด 19

2020-07-14 11:20:06

ทหารอียิปต์จัดให้ กินนอนเดินเที่ยวไทยพร้อมโควิด 19

Advertisement

แล้วมันก็มา !

หลังจากคณาจารย์ทางการแพทย์หลายท่านเตือนแล้วเตือนอีก ประชาชนอย่าการ์ดตก รัฐบาลต้องไม่รีบร้อนเปิดประเทศรับชาวต่างชาติ เพราะตัวอย่างมีให้เห็นทุกวันในหลายๆประเทศ ทั้งในสหรัฐ ยุโรป หรือแม้แต่เอเชีย

สุดท้าย ประชาชนคนไทยอาจการ์ดตกไปบ้างแต่ก็ยังรัดกุมพอ แต่ที่ประมาทเลินเล่อกลับกลายเป็นหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงอย่างกองทัพ และต่างประเทศ

ปล่อยให้ทหารอียิปต์เข้ามากินนอนเดินเที่ยวห้างแบบชิลล์ๆ สบายๆ และยังไม่รู้ว่า ไปเที่ยวไหนแวะไหนอีกบ้าง


เข้ามาตอนไหน เข้ามาได้อย่างไร เข้าพักที่ไหน คนไทยเจ้าของประเทศไม่มีโอกาสได้รับรู้รับทราบ กว่าจะรู้ว่ามีกลุ่มวีไอพีเหล่านี้เข้ามาอยู่ในไทย ก็ต่อเมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.แถลงแบบรายวันว่า มีทหารสัญชาติอียิปต์ติดเชื้ออย่างน้อย 1 ราย หลังเข้าไทยด้วยภารกิจด้านการทหาร แต่ตอนนี้สะบัดก้นไปจากประเทศไทยแล้ว

ปล่อยให้คนไทยเจ้าของประเทศงงเป็นไก่ตาแตก อลหม่านขวัญผวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดระยอง ที่ทหารอียิปต์กลุ่มนี้ไปพักแล้วสร้างวีรกรรมวีรเวรให้กับคนไทยต้องตามล้างตามแก้

พอเรื่องไม่ควรลับแต่ปิดลับแล้วความแตก คราวนี้ก็เกิดมหกรรม "โยนกลอง" กันสิครับ ระหว่างหลายหน่วยงานที่น่าจะเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ใครเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ เอาเข้ามาแล้วทำไมไม่มีกฏกติกากำหนด ปล่อยให้เดินเพ่นพ่านตามอำเภอใจ เมื่อเป็นเรื่องของทหาร หน่วยงานแรกที่โดนแบบเต็มๆ คือ กองทัพบก และคนแรกที่โดนแบบจัดหนักในโลกโซเชียลคือ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ที่โดนจนหน้าชา

โฆษกกองทัพบกต้องรีบออกโรงแจงพัลวัน ทัพบกและ ผบ.ทบ. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่ทหารอียิปต์ชุดนี้ เข้าประเทศไทยได้ในฐานะ 1 ใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่ได้รับยกเว้นตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ใช้รับมือโควิด 19 อยู่ในขณะนี้ โดยจัดอยู่ในกลุ่มนักบินและผู้ควบคุมยานพาหนะ เข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ

ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย ก็ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับคณะทหารจากอียิปต์ แค่แจกแจงว่า เพราะเป็นเครื่องบินทหาร จึงต้องขออนุญาตบินเข้าน่านฟ้า เมื่อกระทรวงการต่างประเทศประสานมา กองทัพอากาศก็อนุญาตให้เข้าไปจอดที่สนามบินอู่ตะเภาได้ ส่วนเรื่องกักกันโรค เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่และกระทรวงสาธารณสุข ทางด้านกองทัพอากาศ ได้ชี้แจงว่า กองทัพอากาศเพียงอนุญาตให้บินเข้าน่านฟ้าเพื่อจอดพักเป็นเวลาหนึ่งวันเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องภารกิจทางทหาร

"หมอตี๋" นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข ปฏิเสธทันควันทหารกลุ่มนี้ไม่ใช่แขกรัฐบาล ทั้งยังฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดและเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ตรวจ อ้างว่าได้รับสิทธิพิเศษไม่จำเป็นต้องตรวจ มิหนำซ้ำออกจากโรงแรมที่พักไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. รวมเวลาถึง 4 ชั่วโมง

ขณะที่โรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ชี้แจงว่า ได้รับการยืนยันและการตรวจคัดกรองของผู้เข้าพักกลุ่มนี้จากสถานฑูตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งยืนยันว่าโรงแรมไม่มีนโยบายรับลูกเรือ และบุคคลต่างชาติที่ไม่ผ่าน State Quarantine กักตัวไม่ถึง 14 วันเข้าพัก และโรงแรมก็ไม่ใช่ State Quarantine ของทางการ ท่ามกลางคำถามของผู้คนทั่วไปว่า แล้วไปพักโรงแรมนี้ได้อย่างไร ชวนงุนงงสงสัย เหมือนกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ที่อ้างว่าได้ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่าไม่มีผู้ติดเชื้อไปใช้บริการที่ศูนย์การค้า

ไปกันคนละทิศละทาง เข้าทำนอง "ไม่รู้ ตรูไม่เกี่ยว"

ช่างไม่คิดถึงหัวอกของผู้คนในกลุ่มสุ่มเสี่ยงที่อาจจะโดนแจ๊คพ็อต เพราะจับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ในห้าง หรือในร้านค้าที่ทหารอียิปต์ไปใช้บริการในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเขาอยากทราบความจริงที่กระจ่างชัด เพื่อจะได้รู้ว่าควรต้องทำอย่างไร

ยังไม่นับรวม เรื่องเด็กหญิงวัย 9 ขวบในครอบครัวทูตประจำประเทศไทยที่ติดเชื้อโควิด 19 ตอนนี้เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว แต่ปัญหาที่ต้องตามแก้ไขป้องกัน คือครอบครัวของเด็กแทนที่จะกักตัวในสถานที่ที่ทูตประเทศนั้นๆกำหนด ได้แก่บ้านพักในสถานทูต กลับได้รับอภิสิทธิ์ชนไปพักที่คอนโดฯหรูย่านสุขุมวิท ท่ามกลางคำถามใครอนุญาต หรือใครต้องรับผิดชอบต่อการฝ่าฝืนที่เกิดขึ้น

ทั้งยังพยายามปกปิดกระทั่งชื่อคอนโดฯดังกล่าว ทั้งที่ควรต้องให้ผู้พักคนอื่นๆได้รับรู้ ไม่ใช่อมพะนำอย่างนี้

ย้ำครับว่า นี่ไม่เกี่ยวกับคำกล่าวที่ว่า "ทำอะไรสบายๆคือไทยแท้" เพราะประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยกเว้นคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจสั่งการหรืออนุมัติ ที่มีเกี่ยวข้องไม่กี่คน

จะหาญกล้าออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือไม่