“ก้าวไกล” ยืนข้าง “เกมเมอร์” จี้รัฐทบทวบก่อนออก ก.ม.คุม

2020-07-09 16:20:22

“ก้าวไกล” ยืนข้าง “เกมเมอร์” จี้รัฐทบทวบก่อนออก ก.ม.คุม

Advertisement

“ก้าวไกล” ยืนเคียงข้าง “เกมเมอร์” จี้รัฐทบทวบก่อนออกกฎหมายควบคุม หวั่นลิดรอนสิทธิ์  ปิดกั้นโอกาสความคิดเชิงสร้างสรรค์ เผยเตรียมเสนอกฎหมายยกระดับพัฒนา “อี-สปอร์ต” 

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่รัฐสภา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4  พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. เขต22 พรรคก้าวไกล นายธีรัจชัย พันธุมาศ  นายปริญญา ช่วยเกตุคีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายเพื่อควบคุมอุตสาหกรรมเกม  อี-สปอร์ต ว่า จากการมีข้อร้องเรียนไปยัง คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม สภาผู้แทนราษฎร ขององค์กร 85 องค์กร เพื่อให้นำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมเกมส์และอีสปอร์ต เมื่อวันที่ 25  มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยในการควบคุม เป็นการฝืนธรรมชาติ  เด็กไทยสามารถสร้างความสามารถในวงการอี-สปอร์ต ในเวทีระดับโลกโดยเขาสร้างมาเอง ปราศจากรัฐสนับสนุน อคติจากรัฐนั้นมองว่าเกมคือผู้ร้ายมาโดยตลอด แต่ที่พวกเขาประสบความสำเร็จ เพราะมองว่าเกมเป็นกีฬา ที่ไม่ต้องใช้เส้นสาย แต่ใช้ความสามารถเฉพาะตัว เป็นพื้นที่ที่พวกเขาได้เเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยในวันที่ 13 ก.ค. 2563 ตนจะนำบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้เเจงต่อคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม


ด้านนายเท่าพิภพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเล่นเกมเเละในสมัยอดีตเคยเป็นเด็กเฝ้าร้านเกม ถ้าทุกคนพูดถึงอุตสาหกรรมเกมเบื้องต้น คือ ของที่เด็กเล่นกัน แต่หากเรามองเบื้องลึก อุตสาหกรรมเกมสามารถทำรายได้ 24,000 ล้านบาท ให้แก่ประเทศ โดยประกอบด้วย เกมเมอร์ โปรเเกรมเมอร์ นักออกแบบ หลากหลายสาขาอาชีพในด้านนี้ หากรัฐออกกฎหมายเพื่อควบคุมพวกเขาเหล่านี้ เปรียบเสมือนการตั้งด่านปิดถนน โดยถนนนี้ หากมีการตั้งด่าน คนที่โดนกระทำ คือเกมเมอร์ โปรเเกรมเมอร์ เป็นการตัดตอนโอกาส ตัดตอนความฝัน เเละจำกัดพื้นที่พวกเขา ที่จะสามารถสร้างรายได้อันมหาศาลให้แก่ประเทศ

“อยากขอให้รัฐบาลคิดว่า การเล่นเกมเป็นการสนับสนุนให้เด็กๆ พัฒนาสมอง พัฒนาเกม ให้เขาเกิดความสงสัยใครรู้ในการพัฒนาเกม  พรรคก้าวไกล เรายังมีการตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับอี-สปอร์ต โดยมี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นผู้ดูเเล เเละพรรคก้าวไกล จะเสนอ พ.ร.บ.เกี่ยวกับอี-สปอร์ตและดิจิทัลเซอร์วิส เพื่อสุดท้ายจะสร้างความเท่าเทียมในโลกออนไลน์ต่อสากลมากขึ้น “ เท่าพิภพ กล่าว

ด้าน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวในฐานะพ่อของลูกที่ติดเกม ว่า ลูกของตนติดเกม แต่สามารถเรียนจบเข้ามหาวิทยาลัย ในระดับปริญญาตรีตั้งแต่ อายุ18 ปี เเละต่อระดับปริญญาโท ปัจจุบันเป็นโปรเพลเยอร์สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตนอยากให้รัฐมองอีกมุมว่า เราสามารถดูเเลบริหารจัดการเกมได้อย่างสร้างสรรค์ เกมคือพื้นที่ให้เด็กได้เเสดงออกในโลกของเขา ซึ่งในความเป็นจริงเด็กทุกคนไม่สามารถเป็นฮีโร่ได้ แต่ในเกมทุกเกม ที่เป็นการเเข่งขันในเชิงต่อสู้ ซึ่งเด็กที่ไม่มีความสามารถ ไม่เเข็งเเรง นั้นสามารถสร้างตัวเองให้เป็นฮีโร่ได้ นี่คือสิ่งที่สามารถเป็นเวทีให้ได้เเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยตนขอให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งหมายความว่า เด็กที่พ่อแม่กลุ้มใจ สามารถเป็นโปรเพลย์เยอร์สร้างรายได้ให้ประเทศ สมาคมต่างๆก็จะได้รับการสนับสนุน เเละสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล สิ่งที่สำคัญ คือ ความเอาใจใส่ของผู้ปกครอง ในการสนใจให้ความสำคัญกับบุตรหลาน เเละยกตัวอย่างกรณีที่ตนได้ไปร่วมเปิดการจัดเเข่งขันอี-สปอร์ต พบว่า มีกลุ่มคนผู้พิการ เข้าร่วมในการแข่งขัน แสดงให้เห็นว่า เกมมีความสำคัญ และไม่ได้เเบ่งแยก มีความเท่าเท่าเทียมกับคนทุกคน

ขณะที่ นายปริญญา ช่วยเกตุคีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกลุ่มผู้พิการ กล่าวว่า เกมกีฬาอี-สปอร์ตสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ เเละสร้างรายได้ ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีข้อจำกัด ลดความเหลื่อล้ำ ของประชาชนเเละคนพิการ ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ ในการให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ได้มีโอกาส ไม่ปิดกั้นต่อสังคม การกีฬาจะสร้างคน เเละคนพิการอย่างตนก็จะมี อีสปอร์ตสร้างชาติได้ ทั้งนี้ จุดยืนของเราคือ เราขอยืนอยู่ข้างเกมเมอร์ทุกท่าน เราไม่เห็นด้วยในการควบคุมอย่างไม่เป็นเหตุผล ขอให้รัฐบาลอย่าเร่งรีบ ด่วนสรุป โดยไม่รับฟังจากทุกฝ่าย ทั้งนี้เราได้ยื่นญัตติด่วนเพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้ด้วย