ตำรวจคาด "น้องกานต์" วัย 6 ขวบหายตัวออกจากบ้านกลายเป็นศพ เพราะถูกสุนัขทำร้าย
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ด.ช. อนวัช นนธิจันทร์ หรือน้องกานต์ อายุ 6 ขวบ หายตัวออกไปจากบ้านเลขที่ 29 ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อช่วงสายอขงวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพบเป็นศพอยู่ในสวนยางพาราของนายเกรียงวุฒิ วรรณทอง 47 ปี พื้นที่ ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี ห่างจากบ้านของ น้องกานต์ ประมาณ 200 เมตร ต่อมา พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองจันทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.จันทบุรี และแพทย์นิติเวช รพ.พระปกเกล้าฯ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบศพของน้องกานต์ เหลือเพียงครึ่งตัว สภาพเริ่มเน่าเปื่อย มีชิ้นเนื้ออวัยวะติดโครงกระดูกคล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ส่วนท่อนล่างช่วงเอวและท่อนขาหายไป ใกล้กันพบเสื้อยืดสีแดงและกางเกงขาสั้นลายพรางทหารตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 30 เมตร นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบมีรอยเท้าสุนัขเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบคราบเลือดติดอยู่กับกอหญ้าภายในสวนทุเรียน โดยห่างจากจุดที่พบศพน้องกานต์ ประมาณ 50 เมตร ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ จึงเข้าตรวจสอบร่อยรอย พร้อมเก็บวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐาน ว่า สาเหตุการเสียชีวิตของน้องกานต์ น่าจะเกิดจาก น้องกานต์ เดินหลงเข้าไปในสวนผลไม้ของเพื่อนบ้านก่อนถูกสุนัขทำร้ายจนเสียชีวิต และหลังจากศพเริ่มเน่าเปื่อยจึงถูกฝูงสุนัขลากมารุมแทะในป่ายาง ทำให้ไม่พบตัวน้องกานต์
ด้าน พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองจันทบุรี ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พุ่งประเด็นไปที่ น้องกานต์ อาจถูกสัตว์ทำร้าย ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า บริเวณสวนผลไม้ใกล้เคียงมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุล เลี้ยงสุนัขพันธ์ล็อตไวเลอร์ไว้ภายในสวน โดยเบื้องต้นทางตำรวจสืบสวนเตรียมประสานขอเข้าตรวจสอบสุนัขล็อตไวเลอร์ตัวดังกล่าว เนื่องจากสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องกานต์ ขณะที่เจ้าของสุนัขยืนยันยันพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยยินดีที่จะนำสุนัขล็อตไวเลอร์ ไปให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจพิสูจน์เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และเพื่อหาข้อเท็จจริง ตลอดจนสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
ขณะที่ นายสุขุม สาทิพย์จันท์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 ม.6 ต.วังตะเคียน อ.เขาสมิง จ.ตราด พ่อของน้องกานต์ ที่ได้เดินทางมาดูศพลูกชาย บอกกับผู้สื่อข่าว ว่า หลังจากได้เลิกรากับอดีตภรรยา ได้เลี้ยงดูน้องกานต์ เพียงลำพังจนอายุได้ 5 ขวบ จึงคบหากับแฟนใหม่ และต้องย้ายไปทำงานที่ จ.ตาก จึงนำน้องกานต์ มาฝากให้นายสุทธิเกียรติ น้องชาย เลี้ยงดู ซึ่งนิสัยส่วนตัวน้องกานต์ เป็นคนเงียบๆ ชอบเล่นคนเดียว ที่ผ่านมาได้ติดต่อน้องกานต์ ผ่านทาง นายสุทธิเกียรติ ให้ช่วยอัดคลิปและส่งรูปถ่ายมาให้ เนื่องจากน้องกานต์ ไม่ยอมคุยด้วย เพราะปกติมีนิสัยขี้อาย ส่วนที่น้องกานต์ หายตัวไปแล้วมาพบว่าเสียชีวิต ตนยังทราบสาเหตุ และไม่ได้สงสัยว่าใครทำร้าย คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่โดยส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดี จนลูกต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ด้าน นายสุทธิเกียรติ นนธิจันท์ อายุ 24 ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของน้องกานต์ บอกว่า รับน้องกานต์ มาดูแลได้ประมาณปีเศษ ปกติน้องเป็นคนเงียบๆ และมีนิสัยแปลก คือ ชอบไปเล่นรูปปั้นตามศาลพระภูมิ ซึ่งตนเองเคยเตือนน้องไปหลายครั้งว่าเป็นสิ่งไม่ดี และห้ามไปเล่นอีก แต่น้องกานต์ ก็แอบไปเล่น ส่วนเรื่องที่น้องกานต์ ไปเล่นแอบไปเล่นศาลพระภูมิทำ แล้วทำลายรูปปั้นนางรำเสียหายจนทำอาจเป็นสาเหตุให้น้องเสียชีวิตนั้น ตนคิดว่าอาจเป็นเรื่องไสยศาสตร์ที่มองไม่เห็น คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาความจริงต่อไป
ส่วนเรื่องการรับศพ น้องกานต์ ไปบำเพ็ญกุศล ตามพิธีทางศาสนา จากการสอบถามทาง นายสุขุม สาทิพย์จันท์ อายุ 26 ปี พ่อของ น้องกานต์ บอกว่า เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนจึงไม่มีทุนทรัพย์ที่จะทำศพลูกชาย ต่อมาทางชาวบ้านที่ร่วมตามหาน้องกานต์ ตลอดจนผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือค่าทำศพน้องกานต์ โดยมอบให้กับนายสุขุม เป็นผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานทางสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน นำหีบศพมามอบให้เพื่อใช้บรรจุร่างน้องกานต์ ในวันไปรับศพที่ รพ.พระปกเกล้าฯ ก่อนนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป