ย้อนประวัติ "นาธาน โอมาน" กับเส้นทางชีวิตที่เลือกเดิน

2020-07-04 14:35:25

ย้อนประวัติ "นาธาน โอมาน" กับเส้นทางชีวิตที่เลือกเดิน

Advertisement

ถือเป็นข่าวการสูญเสียอีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิง หลังมีข่าวออกมาว่าอดีตนักร้องชื่อดัง "นาธาน โอมาน" ได้เสียชีวิตลงไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งตลอดการเข้าวงการบันเทิงมา"นาธาน โอมาน" ถือเป็นอีกหนึ่งคนดังที่มีข่าวมาโดยตลอด และโดนโจมตีด้วยประเด็นต่างๆอย่างมากมาย แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่สร้างเสียงหัวเราะและสร้างสีสันให้วงการบันเทิงอีกเช่นกัน โดยประวัติของนาธานถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนต่างได้รับรู้มาอย่างต่อเนื่องตามหน้าข่าวต่างๆดังต่อไปนี้

- นาธาน โอมาน หรือนายสุธัญ โอมานันท์  เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 

- นาธาน โอมาน สำเร็จชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนดรุณศึกษา จ.นครศรีธรรมราช และเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนทุ่งสง เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นาธานก็ได้หนีไปใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร โดยศึกษาที่วิทยาลัยเพาะช่าง 2 ปี แล้วต่อปริญญาตรีศิลปศาสตร์ คณะครุศาสตร์ (เอกศิลปะ) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา


- พ่อแม่นาธานแยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้นาธานต้องไปอาศัยอยู่กับป้าและย่า โดยมีบิดาเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดู

- นาธาน โอมาน เข้าวงการบันเทิงด้วยการถ่ายแฟชั่นให้กับนิตสารอิมเมจ นิตยสารลิปส์ นิตยสารป๊อบทีน ถ่ายMV เพลงถอนตัว ของByrd&Heart ซึ่งหลังจากนั้นได้ก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินนักร้องค่ายอาร์เอส และออกอัลบั้มเพลงมา 2 ชุดคือNathan(2546) และ สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ กับเพลงอย่างน้อย,นางฟ้ามาโปรด,แค่ใครสักคนบนโลกใบนี้,เนื้อคู่,สัญญา,รักเดินทางมาจากบ้าน,ให้มันผ่านไป

- นาธาน โอมาน เริ่มเป็นที่รู้จักมายิ่งขึ้นจากหนังสือพิมพ์และทางรายการโทรทัศน์ที่เชิญไปสัมภาษณ์เหตุการณ์รอดชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ

- ปี พ.ศ. 2551 นาธานให้สัมภาษณ์ว่า ได้แสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Prince Of Red Shoe ของบริษัทบิกบลู ในเครือค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟอกซ์ ซึ่งมี วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน และ มูฮำหมัดซูอัต เป็นผู้กำกับ โดยแสดงร่วมกับดาราดังอย่าง บรูซ วิลลิส และ คริสติน่า ริชชี่ ต่อมากลายเป็นข่าวโด่งดัง แต่เมื่อมีการสืบค้นข้อมูล ทั้งจากเว็บไซต์ IMDb ทวิตเตอร์ของนักแสดงที่นาธานอ้างถึง ตลอดจนหลักฐานอื่น ๆ กลับไม่มีสิ่งยืนยันว่านาธานแสดงภาพยนตร์ตามที่กล่าวอ้าง


- พ.ศ. 2553 นาธานยอมรับกับรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย เรื่องการแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดรวมถึงเรื่องราวทั้งหมดของตน โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพราะผู้สนับสนุนตนในวงการบันเทิง ต้องการสร้างตัวตนของตนให้เป็นแบบนั้น ให้มีชีวิตที่น่าทึ่ง เป็นเด็กอัจฉริยะสามารถพูดได้หลายภาษา เป็นต้น

- นาธาน โอร์มาน เริ่มสนใจด้านการเมือง โดยสมัครเข้าสังกัดพรรคพลังเครือข่ายประชาชน

- เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 ศาลจังหวัดเลยได้ตัดสินให้นาธาน จำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินน้ามดทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

- นาธานมีผลงานการเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค "ผมมันเด็กหลังเขา (หิมาลัย)" และโลกนี้ไม่เหงาแล้ว (Not A Lonely Planet) เป็นพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มที่ 2 ของนาธาน โอร์มาน ซึ่งต่อจาก "ผมมันเด็กหลังเขา (หิมาลัย) " พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มนี้เป็นผู้เขียนอ้างว่าเป็นบันทึกเดินทางในประเทศเนปาลของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านเก่าในนาคากต ร้านขนมในปาตัน และยังมีประสบการณ์เฉียดตายจากการเดินทางไปผจญภัยในดินแดนแคชเมียร์ อียิปต์ ตุรกี เหตุการณ์คลื่นสึนามิพัดถล่มในหมู่เกาะสุรินทร์ นอกจากนี้ยังกล่าวถึง การตกแต่งบ้านสไตล์เนปาล และพลังลึกลับของหิน



- นาธานกล่าวอ้างว่า แรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่า ตอนนี้เขาไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว เพราะการเดินทางทำให้ได้เจอเพื่อนๆมากมายจากทั่วทุกมุมโลก และที่สำคัญนาธานอยากให้แฟนเพลงทุกคนได้รู้จักประเทศเนปาลมากขึ้น อยากให้หลายๆ คนได้รับรู้ทุกซอกทุกมุมของเนปาล ซึ่งถือเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมแห่งหนึ่งของโลก



- จากข้อกรณีพิพาทที่นาธานได้มีดังนั้นจึงสรุปได้ว่าหนังสือ ทั้ง 2 เล่ม คือ ผมมันเด็กหลังเขา (หิมาลัย) และ โลกนี้ไม่เหงาแล้ว (Not A Lonely Planet) นั่นเป็นเรื่องแต่งมาทั้งสิ้น โดยได้แรงบันดาลใจจากผู้ใหญ่ที่รู้จักกันและเคยเล่าประสบการณ์ใช้ชีวิตที่เนปาลให้นาธานฟังนาธานจึงใช้ประสบการณ์ของคนอื่นมาปรุงแต่งเขียนใหม่เป็นหนังสือของตนเอง

- นาธาน โอร์มาน เสียชีวิตในวัย 45 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.35 น. ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด


ขอบคุณข้อมูลจาก : THE STANDARD,Wikipedia