"หมอรามา" แนะวิธีเอาตัวรอดจากเหตุเพลิงไหม้ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างถูกวิธี
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้นักศึกษาต้องปีนหนีออกจากตึกทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 8 คน เกี่ยวกับเรื่องนี้ รายการพบหมอรามา ช่วง Big Story เคยแนะนำวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ไฟไหม้ โดยใช้ความรู้ที่ควรมีติดตัว พร้อมระบุว่า
สาเหตุการตายจากสถานการณ์ไฟไหม้ ประกอบด้วย
1. ร่างกายถูกเผาไหม้ ขณะที่ควันไฟจะมีเขม่าต่างๆ ไปอุดตันทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน และเสียชีวิตในที่สุด
2. ควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และมีสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ที่เกิดจากเผาไหม้เบาะและพลาสติก โดยสาร 2 ชนิดนี้หากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก จะไปจับตัวกับฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นเม็ดเลือดที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้ไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้ และจะเสียชีวิตในที่สุด
3. สารอื่นๆ เช่น ไฮโดรเจนคลอไรด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ท่อพีวีซี และสารไนตริกออกไซด์ ที่เกิดจากการเผาไหม้พวกพอลิเมอร์ ทำให้ระคายเคืองบริเวณต่างๆ เช่น ระคายเคืองตา ทำให้แสบตา และหากไปโดนเยื่อบุที่สำคัญอย่างเยื่อบุทางเดินหายใจ ก็จะทำให้เสียชีวิตได้
4. ไอร้อนที่เกิดขึ้น หากสูดดมมากๆ จะทำให้ทางเดินหายใจบวม อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและเสียชีวิตได้
5. เมื่อผิวหนังถูกเผาไหม้รุนแรงจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย หรืออาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำในปริมาณมากจนเสียชีวิตในที่สุด
6. สาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุจากการหลบหนี
การช่วยเหลือผู้อื่นจากสถานการณ์ไฟไหม้
1. หากอยู่ในสถานการณ์คับขัน ให้รีบพาผู้ประสบภัยออกมาจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
2. หากเพลิงไหม้สงบลงแล้ว การช่วยเหลือผู้ประสบภัยควรดูแลเรื่องกระดูกต้นคอเป็นหัวใจสำคัญ โดยการขนย้ายด้วยเปลหรือเบาะ อย่าหิ้วแขนหรือยกตัวจนศีรษะห้อยลงในขณะเคลื่อนย้าย เพราะอาจทำให้กระดูกเคลื่อนที่ได้
3. กรณีผู้ประสบภัยถูกไฟครอกจนเสียหายรุนแรง หลังช่วยเหลือออกจากที่เกิดเหตุแล้ว ให้รีบถอดหรือตัดเสื้อผ้าออกจากร่างกายผู้ประสบภัย เพราะเสื้อผ้าจะอมความร้อน แต่อย่าใช้วิธีกระชาก เพราะเนื้อผ้าบางส่วนอาจติดผิวหนังหลุดออกมาด้วย
4. ถอดเครื่องประดับ เช่น นาฬิกาข้อมือ กำไล ต่างหู ออกจากตัวผู้ประสบภัย เพราะของเหล่านี้อมความร้อนจนอาจทำให้เกิดอาการพอง
5. ใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิปกติรดตัวผู้ประสบภัย เพื่อลดความร้อนให้กับร่างกาย
6. ใช้ผ้าชุบน้ำห่มตัวผู้ประสบภัยไว้ก่อน แล้วนำผ้าบางคลุมอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาล
7. หากที่เกิดเหตุและโรงพยาบาลอยู่ไกล ให้ผู้ประสบภัยดื่มน้ำก่อน เพราะผู้ประสบภัยมักจะมีภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
8. รีบเปิดทางเดินหายใจให้ผู้ประสบภัยหลังนำตัวออกมาจากที่เกิดเหตุ
วิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ไฟไหม้
1. ตั้งสติแล้วรีบพาตัวเองออกมาจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
2. พยายามหลีกเลี่ยงการสูดควันต่างๆ เข้าไป เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน อีกทั้งยังได้รับสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
3. เอาผ้าชุบน้ำปิดปากปิดจมูก หรือหาผ้าห่มชุบน้ำแล้วห่มตัว จากนั้นรีบหาทางออกมาจากที่เกิดเหตุ
4. หากอยู่ในห้องอย่าเพิ่งรีบเปิดประตู ควรจับประตูดูก่อนว่าร้อนหรือไม่ หากรู้สึกร้อนนั่นหมายถึงอาจมีไฟอยู่หลังประตู จึงไม่ควรเปิดเพราะจะทำให้ควันไฟเข้าห้อง ควรหาผ้าหรือวัสดุอื่นๆ มาอุดตรงประตู เพื่อป้องกันไม่ให้ควันไฟเข้ามาในห้องได้
5. หากติดอยู่ในห้องพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เช่น ส่องไฟมือถือออกไปทางหน้าต่าง เพื่อให้ภายนอกรู้ว่ามีคนต้องการความช่วยเหลืออยู่
6. หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ ควรใช้บันไดหนีไฟแทน
7. หลีกเลี่ยงการวิ่งหนีเข้าจุดอับ
8. ระหว่างหาทางออกจากที่เกิดเหตุ หากมีควันมากพยายามก้มต่ำหรือคลาน เพราะออกซิเจนจะลอยอยู่ที่ต่ำ
สำหรับข้อควรปฏิบัติก่อนเกิดเหตุไฟไหม้
ไม่ว่าจะเข้าพักที่ใดก็ตาม ทั้งการเช่าห้องพักระยะยาวและระยะสั้น ควรสังเกตทางหนีไฟและจดจำตำแหน่งเอาไว้ให้แม่นยำ โดยหากเกิดเหตุจะได้พาตัวเองออกมาได้ทันเวลา เพราะที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประสบภัยหลายรายไม่ได้จดจำทางเส้นหนีไฟเอาไว้ ทำให้เมื่อเกิดเหตุไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ทันเวลา