จี้ กสทช.ฟันทีวีดิจิทัล 2 ช่องเสนอข่าวละเมิดสิทธิเด็ก มอมเมา ปชช.

2020-07-03 12:53:06

จี้ กสทช.ฟันทีวีดิจิทัล 2 ช่องเสนอข่าวละเมิดสิทธิเด็ก มอมเมา ปชช.

Advertisement

มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว จี้ กสทช.เอาผิดทีวีดิจิทัล 2 ช่องดัง นำเสนอข่าวเด็กหญิงมุกดาหารเสียชีวิต เข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็ก ชี้ปั้นดราม่ายาวนานเรียกเรตติ้ง หวั่นชุมชนได้รับผลกระทบหนัก ล่าสุดเลยเถิดถึงขั้นใบ้หวยให้เลขเด็ดมอมเมาประชาชน ขณะที่ กสทช.รับเรื่อง นำเข้าอนุกรรมการตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายชูวิทย์  จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว  พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์  สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายนักกฏหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กว่า10 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการ กสทช.ผ่านทาง ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการกสทช. ขอให้ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลชื่อดัง 2 ช่อง ที่นำเสนอข่าว กรณีเด็กหญิง 3 ขวบเสียชีวิต ที่ภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทั้งนี้เครือข่ายฯทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ติดริบบิ้นดำบนจอทีวีและยืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยกับการเสนอข่าวละเมิดสิทธิเด็ก มอมเมาประชาชน 

 

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ. 3 ขวบ ที่ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เป็นคดีที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน ส่งผลต่อความรู้สึกคนในครอบครัวเด็ก ชุมชน สังคม ซึ่งสื่อมวลชนแทบทุกแขนงติดตามและเสนอข่าวนี้อย่างใกล้ชิด แม้ด้านหนึ่งจะเป็นความปราถนาดีในการเสนอข่าวต่อสาธารณะ  แต่ผลกระทบที่ตามมาเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ในการนำเสนอข่าวของสื่อทีวีดิจิทัลชื่อดัง2ช่อง ซึ่งพบว่ามีการลงรายละเอียดเกินความจำเป็น ไร้ขอบเขต ไม่คำนึงถึงหลักกฎหมาย หลักจริยธรรม และประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหาย ถือเป็นละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว 


“ทีวีดิจิทัลทั้ง2ช่อง มีการใช้ภาพจริงที่คาดตาใช้ชื่อเล่นจริงๆ ไม่ใช่นามสมมติ อธิบายรายละเอียดเกินความจำเป็น มีการจำลองภาพความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสัมภาษณ์บุคคลจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต ตั้งคำถามข้ามเส้นจรรยาบรรณ จนกลายเป็นการซ้ำเติมความรู้สึก ซ้ำเติมความทุกข์ของครอบครัว ชุมชน อีกทั้งมีการปรากฏภาพและชื่อของผู้ต้องสงสัย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และทำให้ชุมชนเกิดความหวาดระแวง สร้างความขัดแย้งแตกแยก นอกจากนี้ยังผูกโยงไปถึงไสยศาสตร์ ลากข่าวยาวนานเกือบสองเดือน เสมือนเรียลลีตี้โชว์เพื่อเรียกเรทติ้ง และล่าสุดเลยเถิดถึงขั้นใบ้หวยให้เลขเด็ด นำเสนอร่างทรง คำทำนายว่าใครเป็นผู้เกี่ยวข้องกับคดี และนำเสนอภาพ เสียงเกี่ยวกับตัวเลขต่างๆ ซึ่งเข้าข่ายเชิญชวนให้มีการเล่นการพนัน มอมเมาประชาชน  ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีความจำเป็นใดๆในการนำเสนอข่าวลักษณะนี้ ข่าวไม่ใช่ละครดราม่าที่ใช้เรียกเรตติ้ง ข่าวควรปลอดภัยกับคนทุกเพศทุกวัย และสร้างสรรค์สังคมมิใช่ทำกันแบบนี้” นายณัฐพงศ์ กล่าว         

นายชูวิทย์ กล่าวว่า มิใช่แค่กรณีเด็กที่เสียชีวิตรายนี้ ข่าวอื่นๆ เช่นนักเรียนถูกครูและรุ่นพี่ข่มขืนรุมโทรมนานนับปี ที่มุกดาหาร ข่าวเด็กหญิงถูกญาติข่มขืนยาวนานกว่า 2 ปีที่สุพรรณบุรี การนำเสนอข่าวก็มีการลงรายละเอียดกันจนไร้เหตุผล ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไปเพื่ออะไร ผู้เสียหาย ครอบครัว ชุมชน และสังคมจะได้ประโยชน์อะไรจากวิธีการนำเสนอแบบนี้ และหากปล่อยให้ข่าวเป็นแบบนี้ได้ต่อไปสังคมจะเสียหาย  และเสพติดดราม่าข่าวจนลืมความทุกข์ความลำบากของผู้ถูกกระทำ ปัญหาจะไม่ถูกแก้ไข จะมุ่งไปตามกระแส อารมณ์ ไร้หลักการ จากสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง มูลนิธิฯและเครือข่ายฯ จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อ กสทช. ดังนี้ 1.ตรวจสอบการเผยแพร่ข่าว ของสื่อ 2 ช่องดังกล่าว ย้อนหลังไปสองเดือน ว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็ก ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเข้าข่ายมอมเมาประชาชนให้เล่นการพนันหรือไม่ หากพบความผิดจริงให้ดำเนินคดีตามาตรา53 มาตรา 37 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2.เร่งออกมาตรการควบคุมจริยธรรมสื่อมวลชนในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพราะการกำกับดูแลกันเองแบบระบบสมัครใจ โดยไม่มีกฎหมายรองรับจะไร้ผล และจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพียง เสือกระดาษ ไม่สามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้มีการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของสื่อในกรณีละเมิดสิทธิเด็ก สิทธิเสรีภาพของประชาชน 3.ขอเรียกร้องผ่านไปยังคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ องค์กรวิชาชีพสื่อ โปรด ให้ความสำคัญและมีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันแก่ไขปัญหานี้ ตลอดจนขอให้ประชาชนช่วยกันแสดงออก ด้วยการปฏิเสธ ไม่สนับสนุนสื่อที่นำเสนอข่าวไม่สร้างสรรค์ ละเมิดสิทธิเด็กและสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล มุ่งมอมเมาประชาชน 4.ขอให้กำลังใจสื่อมวลชนจำนวนมากที่ยังยืนหยัดนำเสนอข่าวสร้างสรรค์สังคม โดยคำนึงถึงหลักจริยธรรมวิชาชีพ ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว               


ขณะที่ ผศ.ภักดี มะนะเวศ  รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า  ทางกสทช.จะรับไว้พิจารณา และนำเข้าอนุกรรมการที่กำกับดูแลเรื่องผังรายการตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่อย่างไร หากพบว่ามีความผิดจริง จะเชิญทางช่องและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ส่วนบทลงโทษเริ่มตั้งแต่ตักเตือน จนถึงจับปรับ คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบโดยทั่วไปไม่เกิน 30 วัน อย่างไรก็ตาม โดยปกติหากไม่มีการมาร้องเรียน กสทช.ก็เฝ้าระวังตรวจสอบสิ่งที่สื่อทำได้หรือไม่ได้อยู่แล้ว รายการไหนที่ไม่เหมาะสม ใบ้หวย ดราม่างมงาย ต่างๆ ไม่สามารถออกอากาศได้ ทั้งนี้กสทช.มุ่งเน้นเรื่องจริยธรรมของสื่อ การนำเสนอต้องเหมาะสมกับหลักสิทธิเสรีภาพ