ฮ่องกงอยู่ยาก เริ่มประท้วง ไม่เอา "กฎหมายความมั่นคง" ของจีน

2020-07-01 16:20:46

ฮ่องกงอยู่ยาก เริ่มประท้วง ไม่เอา  "กฎหมายความมั่นคง" ของจีน

Advertisement

 
ฮ่องกงกำลังเผชิญหน้ากับความจริงใหม่เมื่อวันพุธ หลังจากรัฐบาลกลางจีนแผ่นดินใหญ่ บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติอย่างกว้างขวางในช่วงดึกวันอังคาร พร้อม ๆ กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำลายการเป็นเขตปกครองตนเองและเสรีภาพของพลเรือนและสังคมที่ล้ำค่า และเสริมอำนาจเผด็จการของจีนเหนือดินแดนแห่งนี้ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ประชาชนหลายร้อยคนหลั่งไหลออกมาประท้วงกฎหมายฉบับนี้ ในย่านธุรกิจคอสเวย์ เบย์ แต่ก็ต้องพบกับการตึงกำลังรักษาความมั่นคงที่เข้มข้น

ตำรวจฮ่องกงยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่รวมตัวประท้วงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีนที่นำมาบังคับใช้ในฮ่องกง ซึ่งหลายฝ่ายกลัวว่า จะทำลายเสรีภาพในศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ โดยตำรวจฮ่องกงเคลื่อนกำลังอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อวันพุธ ที่เริ่มต้นชุมนุมครั้งแรกตั้งแต่จีนเริ่มใช้กฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกงฉบับใหม่ ซึ่งทำให้มีการจับกุมตัวผู้ประท้วงรายแรกภายใต้กฎหมายฉบับนี้ด้วย และเตือนด้วยว่าจะลงโทษสำหรับผู้ที่เผยแพร่เนื้อหาการสนับสนุนเอกราช



รัฐบาลปักกิ่ง เปิดเผยรายละเอียดของกฎหมายความมั่นคงเมื่อวันอังคาร หลังจากเกิดความไม่แน่นอนมาหลายสัปดาห์ ผลักดันให้ฮ่องกง เมืองที่มีเสรีภาพที่สุดของจีน และหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่ประสบความสำเร็จที่สุดของโลก ก้าวเดินอยู่บนเส้นทางเผด็จการมากขึ้น

ขณะที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันอยู่กลางเมืองในวันครบรอบ 23 ปี อังกฤษมอบเกาะฮ่องกงคืนให้อยู่ภายใต้การปกครองของจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยฉีดเพื่อจับกุมตัวผู้ประท้วงอย่างน้อย 2 คน ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งถูกปิด ตำรวจจับกุมครั้งแรกด้วยภายใต้กฎหมายนี้ด้วย ซึ่งชายคนหนึ่งที่ถูกจับกุม ถือธงสนับสนุนเอกราช มีผู้ถูกจับกุมตัวทั้งสิ้น 30 คน ในข้อหาทำผิดกฎหมายการชุมนุม, ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ, ขัดขวางตำรวจ และครอบครองอาวุธที่ใช้ในการโจมตี



ตำรวจโชว์แผ่นป้ายสีม่วงที่มีข้อความเขียนเตือนผู้ประท้วงว่า คุณกำลังแสดงธงหรือป้าย/ตะโกนสโลแกน/ หรือดำเนินการด้วยตัวคุณเองด้วยเจตนาแบ่งแยกการปกครอง หรือล้มล้างการปกครอง ซึ่งอาจเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ กฎหมายจะลงโทษเป็นคดีอาญาในข้อหาแบ่งแยกดินแดน, ล้มล้างการปกครอง, ก่อการร้าย และสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต,

รัฐสภาจีน ผ่านกฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นการตอบโต้การประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อหลายเดือนเมื่อปีที่แล้ว จุดชนวนให้เกิดความหวาดกลัวว่า ปักกิ่งกำลังสั่นคลอนเสรีภาพของฮ่องกง เพื่อรับประกันหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ตามที่ตกลงกันไว้เมื่ออังกฤษคืนฮ่องกงให้อยู่ภายใต้การปกครองของจีน

เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งและฮ่องกง กล่าวย้ำว่า กฎหมายนี้มีจุดประสงค์อยู่ที่ “พวกก่อปัญหา” ไม่กี่คน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ อีกทั้งยังไม่บั่นทอนความสนใจของนักลงทุนด้วย แต่ก็มีหลายฝ่ายหวาดกลัวว่า กฎหมายนี้จะทำลายเสรีภาพ ที่ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค

“เมื่อมีการเปิดเผยรายละเอียดเต็มของกฎหมายฉบับนี้ มันก็ควรจะชัดเจนแล้วสำหรับคนที่สงสัยว่า นี้ไม่ใช่ฮ่องกงที่พวกเขาเติบโตมา” ฮัสนาอิน มาลิก หัวหน้า “เทลลิเมอร์” ศูนย์วิจัยความเท่าเทีียมในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าว “ความแตกต่างก็คือว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน แย่ลงอย่างมาก และนี้อาจถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อขัดขวางบทบาทของฮ่องกงในฐานะเป็นศูนย์กลางการเงิน”



ส่วนในกรุงปักกิ่ง จาง เสี่ยวหมิง รองผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมตัวโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งใหม่ของจีน ในฮ่องกง อาจถูกนำตัวไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นของขวัญวันเกิดของฮ่องกง และจะแสดงให้เห็นคุณค่าที่มีค่าในอนาคต

เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ปีที่แล้ว มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนบุกทำลายสภานิติบัญญัติของฮ่องกง เพื่อประท้วงกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ประท้วงหลายคนที่เข้าร่วมในการเรียกร้องประชาธิปไตยมากกว่านี้ ทำให้หลายพื้นที่ของเมืองเป็นอัมพาต และปูทางไปสู่การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของจีนในสัปดาห์นี้

แคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้นำที่จีนให้การสนับสนุน กล่าวในพิธีชักธงขึ้นเสาเพื่อฉลองครบรอบการคืนฮ่องกงให้จีน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นพัฒนาการที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและฮ่องกง ตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมกอดของจีนแผ่นดินใหญ่ กฎหมายฉบับนี้จะ “รื้อฟื้นเสถียรภาพ” ของฮ่องกง หลังการประท้วงยืดเยื้อในปี 2562



อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ ถูกประณามในวงกว้างจากหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักร รวมทั้งนักเคลื่อนไหวและกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลจีนให้คำมั่นสัญญาให้เสรีภาพ 50 ปีแก่ประชาชนในฮ่องกง แต่กลับให้พวกเขาเพียง 23 ปีเท่านั้น

อังกฤษ คืนอธิปไตยของฮ่องกง กลับสู่การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2540 ภายใต้ข้อตกลงที่ถูกออกแบบเพื่อคุ้มครองเสรีภาพฮ่องกงเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี การเดินขบวนสนับสนุนประชาธิปไตยประจำปี เพื่อฉลองเหตุการณ์นี้ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐห้ามเป็นครั้งแรก โดยอ้างว่า การห้ามชุมนุมมากกว่า 50 คนขึ้นไป เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19

อนึ่ง กฎหมายดังกล่าวได้จำกัดความหน้าที่และหน่วยงานรัฐบาลของฮ่องกงไว้อย่างชัดเจนเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ ทั้งยังระบุความผิดไว้ 4 รูปแบบ ได้แก่ การแบ่งแยกดินแดน การบ่อนทำลาย การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับประเทศอื่นใดหรือบุคคลภายนอกใดที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ กฎหมายยังระบุบทลงโทษที่สอดคล้องกัน เขตอำนาจศาล กฎหมายและกระบวนการที่ใช้บังคับ และสำนักงานรัฐบาลกลางของประชาชน เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติในฮ่องกง และเนื้อหาอื่นๆ ด้วย