"นายกฯ"ยันต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม

2020-06-30 15:50:30

"นายกฯ"ยันต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม

Advertisement

“นายก” ยืนยันต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม เตือนอาบอบนวดหากค้าประเวณีต้องรับโทษสูง 

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.นี้ว่า วันนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงมาตรการต่างๆ เช่น ยังไม่อนุญาตให้นักเรียนชายขอบเข้ามาเรียนได้ จนกว่าจะมีมาตรการที่รัดกุม ขณะที่การเปิดโรงเรียนส่วนใหญ่มีความพร้อมกว่าร้อยละ 80 โดยบางโรงเรียนที่ยังไม่พร้อมก็จะไม่เปิด ซึ่งต้องมีแนวทางใหม่ว่าจะทำระบบการศึกษาอย่างไร เช่น การเรียนที่บ้าน การเรียนออนไลน์ หรือการปรับเวลาเรียนให้เหลื่อมกัน โดยให้ทดลองเรียน 5 วัน พัก 9 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทดลองแนวใหม่ ส่วนการศึกษาในระบบเดิมต้องทำให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการปรับองค์กร และบุคลากรให้มีความตื่นตัวในระบบการศึกษา เพื่อปรับปรุงยกระดับมาตรฐาน สิ่งสำคัญที่สุด คือ ครู และผู้ปกครอง ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ดี ควรสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ เด็กเล็กกำลังอยู่ในวัยซน ครูและผู้ปกครองจะต้องย้ำเตือนเพื่อให้เป็นโรงเรียนที่ปลอดจากไวรัสโควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการคัดค้านการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ตนไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะทุกอย่างมีเหตุผลและความจำเป็นของมันอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นประชาชน หากจะชุมนุมก็สามารถชุมนุมได้ ก็ขออนุญาตชุมนุมตามกฎหมาย เพียงแต่ไม่ต้องการให้มีคนไปอยู่รวมกลุ่มกันเป็นหมู่มาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกลัวหรือไม่กลัวก็ไม่รู้เหมือนกัน ตนไม่ได้ขู่อะไรอยู่แล้ว แต่ขอให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของการใช้กฎหมาย ซึ่งตนพร้อมรับฟังทุกเรื่อง




นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายโดยอนุญาตให้กิจการอาบอบนวด ว่า ต้องคำนึงว่าจะมีการสร้างความสมดุลย์อย่างไรกับภาคเศรษฐกิจ การห้ามค้าประเวณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าจะสามารถปฏิบัติได้จริงหรือไม่ ก็ต้องมีการเข้าไปตรวจสอบสถานที่ หากไปใช้บริการต้องระมัดระวัง หากจับได้ต้องถูกลงโทษ เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการกฎหมายห้ามค้าประเวณีที่มีอยู่แล้ว กฎหมายทุกอย่างอยู่ที่คนปฏิบัติทั้งสิ้น หากรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้ก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด เพราะการผ่อนคลายระยะที่ 5 มีความเสี่ยงสูง รัฐบาลจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายถึงมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ระบบสาธารณสุข การบริการ การตรวจโรค การรักษาโรค ทุกอย่างต้องมีการเตรียมความพร้อม ซึ่งมุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือความเสี่ยง อะไรคืออันตราย ขอแค่อย่าไปเผลอพลั้งลืมตัว นายกฯ เป็นห่วงทุกคน มาตรการอาจเยอะไปบ้าง แต่ถ้าเริ่มต้นดีก็สามารถผ่อนคลายอย่างอื่นได้อีก แต่กฎหมายปกติยังต้องใช้อยู่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้กฎหมายร่วมกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่