มทภ.4 แถลงจับยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 50 ล้าน

2020-06-29 14:15:12

มทภ.4 แถลงจับยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 50 ล้าน

Advertisement

แม่ทัพภาค 4 แถลงผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อม"ไอซ์"ของกลางกว่า 50 ล้าน

เมื่อวันนี้ 29 มิ.ย.63 ที่ห้องรับประทานอาหารนายทหารสัญญาบัตร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงการจับกุมนายกอเซ็ง เจะหะ อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมไอซ์ ของกลางน้ำหนัก 250 กิโลกรัม

สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังตั้งด่านความมั่นคงอยู่ที่บ้านควนมีด ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา พบนาย กอเซ็ง ขับรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1693 ยะลา มีลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถ พร้อมทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบถุงปุ๋ยสีขาว 12 กระสอบ ภายในบรรจุไอซ์ น้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัมจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผลจากการซักถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าไอซ์ ดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยมีนายมะดิง รูเป๊ะ เป็นผู้ว่าจ้าง โดยไปรับมาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี




จากนั้นในวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกอเซ็ง ผู้ต้องหามาควบคุมตัวที่ ฉก.ทพ.46 เพื่อสอบสวนขยายผลก่อนจับกุม นายมะดิง รูเป๊ะ ตามนายกอเซ็ง ที่ให้การซักทอด ต่อมาให้นายกอเซ็ง ติดต่อกับบุคคลที่เรียกว่า บาบอ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายยูโซ๊ะ กามา และได้นัดหมายรับยาเสพติดที่บริเวณแยกลำพู อ.เมือง จ.นราธิวาส ในเวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อนายยูโซ๊ะ มาถึง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวก่อนเข้าจับกุม นายยูโซ๊ะ ก่อนนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 70 ม.5 ต.ลำพู อ.เมือง จ.นราธิวาส ผลการตรวจค้นพบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม ขณเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินเอาไว้ตรวจสอบหนึ่งรายการ คือ รถยนต์มิตซุบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก -4139 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ทำการสืบสวนจนพบความเชื่อมโยงสัมพันธ์ของเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดทางภาคใต้ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดจึงมีการออกมาตรการล๊อกดาวว์ปิดด่านพรมแดนระหว่างประเทศของรัฐบาล ทำให้นักค้ายาเสพติดหันไปส่งยาเสพติดทางระบบโลจิสติกส์ และเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลง การขนส่งมีความสะดวกขึ้น ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงเพิ่มความเข้มข้น และให้ความสำคัญในการสกัดการลำเลียงยาเสพติด จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาเคยต้องโทษในคดียาเสพติด โดยได้รู้จักกันในเรือนจำสงขลา และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 5 ปี



พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ คือ กลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จะใช้รถบรรทุกขับขึ้นไปรับยาเสพติดแล้วลำเลียงจากพื้นที่ปริมณฑลก่อนส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 ล้านบาท จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง สามารถขยายผลนำไปสู่การยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยมีทั้งรถยนต์, รถบรรทุก, โฉนดที่ดิน และทองคำ โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบการได้มาซึ่งทรัพย์สิน และจะขยายผลเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดต่อไป

ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะยังคงเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป รวมถึงจำดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับผู้ค้ารายใหญ่จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ ควบคู่กับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด โดยขณะนี้ได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนเข้าพบปะผู้นำสี่เสาหลัก เพื่อขอความร่วมมือชักชวนผู้ติดสารเสพติดให้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสยาเสพติด หรือพบผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 หรือแข้งได้ที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง