รายงานการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 28 มิ.ย.63 มี 0 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งจากภายในประเทศและจากสถานควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รักษาตัวอยู่ 51 ราย จำนวนผู้ป่วยสะสม 3,162 ราย ส่วนผู้รักษาหายกลับบ้านได้รวม 3,052 ราย หรือ 96.55%
ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 34 วันแล้ว
เดือน มิ.ย.63 มีการผ่อนคลายการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ระยะ 3 วันที่ 1 มิ.ย.63 และระยะ 4 วันที่ 15 มิ.ย.63 การผ่อนปรนรอบหลังนี้ ได้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานช่วง 23.00-03.00 น. ปรากฏว่า นอกจากการติดเชื้อภายในประเทศเป็น 0 พบการติดเชื้อรายใหม่ที่ใน State Quarantine ระหว่างวันที่ 1-28 มิ.ย.63 มีอยู่ 81 ราย
ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก วันเดียวกัน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 176,582 ราย ยอดสะสมขึ้นไปถึง 10,081,545 รายแล้ว ทั้งนี้ รายงานการติดเชื้อถึง 1 ล้านราย เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 และเพียง 87 วัน ก็เพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านราย โดยช่วง 8-10 ล้านราย เพิ่มในอัตราเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ล้านราย การระวังป้องกันการแพร่เชื้อทั้งระดับบุคคล และในสังคม การประกอบกิจการ กิจกรรม ยังต้องอยู่คู่กับเราอีกนาน
รอบบ้านและรอบโลก มีแต่ความเสี่ยง
โอกาสที่เชื้อจะรั่วไหล เล็ดลอดเข้ามามีได้เสมอ
ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เคยให้ข้อมูลว่า ผลของการผ่อนปรน ที่ให้กิจการ กิจกรรม เปิดดำเนินการได้ หากจะเกิดการแพร่เชื้อ จะเห็นผลในระยะ 7-14 วัน แต่การผ่อนปรนทั้ง 2 ระยะ ไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้จะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมาระยะหนึ่งแล้ว ประชาชนก็ยังต้องเข้มงวดป้องกันตนเอง หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า จำเป็นต้องใส่ พกติดตัวตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าในที่แออัด ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก หรือหากเว้นระยะห่างไม่ได้ ให้หลีกเลี่ยงการพูดคุย สวมหน้ากากตลอดเวลา หมั่นสังเกตอาการป่วยของตนเอง หากป่วยไม่ออกนอกบ้านไปในที่สาธารณะ ส่วนห้างร้าน หน่วยงาน ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา กองถ่ายทำภาพยนตร์ ต้องเข้มงวดกับมาตรการป้องกันโรคต่อไป
คุณหมอย้ำว่า ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจเป็นหวัดได้ง่าย ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทำร่างกายอบอุ่น นอนหลับพักผ่อนเพียงพอรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ร่วมกับการใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยป้องกันโรคได้ และหากพบคนป่วยไข้หวัด ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในสถานที่เดียวกัน ภายใน 1 สัปดาห์ ให้รีบแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนสาเหตุการป่วย และควบคุมป้องกันโรค
อย่าเห็นแค่เป็นไข้หวัดแล้วไม่ใส่ใจ
การรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ จึงต้องคงความเข้มข้นของมาตรการ โดยพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพ ยังจัดกำลังทหาร แพทย์ทหาร และสถานที่ สนับสนุนทำงานกับส่วนราชการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเตรียมโรงพยาบาลสนาม การคัดกรองการผ่านเข้าออกในทุกด่านชายแดนทางบก ทางน้ำ และท่าอากาศยานนานาชาติ ส่งต่อไปถึงสถานที่กักกันตัวควบคุมโรคของรัฐ ( State Quarantine ) และการกำกับดูแลความเรียบร้อยปลอดภัยของประชาชนตามมาตรการผ่อนคลายระยะต่าง ๆ ที่รัฐกำหนด
โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุถึงจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศผ่านสายการบิน ตั้งแต่ 4 กพ.63ถึงปัจจุบันเข้าสู่สถานที่กักตัวของรัฐ ( State Quarantine ) 26,886 คน ในสถานกักกันตัวที่กำหนด 43 แห่งพบผู้ติดเชื้อและส่งเข้ารักษาระหว่างกักตัว 147 ราย ส่งกลับภูมิลำเนาแล้ว 20,027 คน ยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 7,371 คน ส่วนที่เดินทางจากประเทศข้างเคียง ผ่านช่องทางผ่านแดนทางบก เข้าสู่สถานที่กักกันตัวที่กำหนดในพื้นที่จังหวัด ( Local Quarantine ) ตั้งแต่ 10 เม.ย.63 ถึงปัจจุบัน 34,518 คน ใน 647 สถานที่ทั่วประเทศ โดยยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 3,585 คน 