กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เตรียมจัดสรรเงินกู้ฉุกเฉิน จำนวน 356.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (11,005 ล้านบาท) ให้รัฐบาลเมียนมา เพื่อใช้สำหรับแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ จากผลพวงการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายมิตซูฮิโระ ฟูรุซาวะ รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวในแถลงการณ์จากสำนักงานใหญ่ ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจเมียนมาได้รับผลกระทบ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศตกต่ำ รวมทั้งการส่งเงินกลับประเทศ และห่วงโซ่อุปทาน หยุดชะงัก เงินทุนที่ไอเอ็มเอฟจัดสรรให้ จะช่วยให้เมียนมาสามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทางด้านการเงิน ที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19
นายฟูรุซาวะ กล่าวอีกว่า เงินทุนจะมาจาก 2 โครงการ ที่สามารถเบิกจ่ายได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านการเจรจายาวนาน โดยเงินก้อนแรกจำนวน 118.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะมาจากโครงการสินเชื่อเร่งด่วน อาร์ซีเอฟ (Rapid Credit Facility : RCF) ซึ่งเป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย สำหรับประเทศสมาชิกรายได้ต่ำ และส่วนที่เหลืออีก 237.7 ล้านดอลลาร์ จะมาจากโครงการเงินทุนเร่งด่วน อาร์เอฟไอ (Rapid Financing Instrument : RFI) ที่ไอเอ็มเอฟปล่อยกู้ให้ประเทศสมาชิกทั่วไป
นับเป็นการขอความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านการเงิน รายการที่ 72 ที่ได้รับการอนุมัติ จากคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
แถลงการณ์ฯ กล่าวอีกว่า เงินกู้ก้อนนี้จะช่วยรัฐบาลเมียนมาเพิ่มรายจ่ายทางด้านสาธารณสุข ขยายการแจกจ่ายอาหาร สนับสนุนธุรกิจรายย่อยและเกษตรกร และสนับสนุนโครงการแจกเงิน แก่ประชาชนกลุ่มฐานะยากไร้ที่สุดของประเทศ.