โพลชี้การเมืองเก่า ทำคะแนนลดฮวบ

2020-06-27 10:25:23

โพลชี้การเมืองเก่า ทำคะแนนลดฮวบ

Advertisement

ซูเปอร์โพล ชี้เล่นการเมืองแบบเก่า ทำคะแนนรัฐบาลลดฮวบ แนะผู้ใหญ่ฟังเพลง คสช.คืนความสุขให้ ปชช.

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เหตุปัจจัย กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,187 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อสอบถามถึงความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ระบุว่า เงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน รองลงมาร้อยละ 49.5 ระบุว่า งานไม่มั่นคง ร้อยละ 32.9 ระบุว่า ไม่มีงานทำ ร้อยละ 32.0 ระบุว่า อาหารและของใช้จำเป็นราคาแพง และร้อยละ 23.9 ระบุว่ามีปัญหาครอบครัว

เมื่อสอบถามถึงเหตุปัจจัยของปัญหาด้านการเมืองการปกครอง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 90.7 ระบุว่า ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รองลงมาร้อยละ 89.7 ระบุว่า ความเหลื่อมล้ำ เลือกปฏิบัติที่ประชาชนถูกกระทำ ร้อยละ 89.1 ระบุว่า ความไม่ชอบธรรมของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐเกิดขึ้นในทุกระดับ ร้อยละ 87.3 ระบุว่า ความไม่เชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระ และร้อยละ 85.9 ระบุว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเด็กและเยาวชน




ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงการรับรู้ต่อ ความซื่อสัตย์สุจริตของรัฐมนตรีทั้ง 4 คนที่ตกเป็นข่าวจะถูกปรับออก พบผู้ที่ได้คะแนนความซื่อสัตย์สุจริตสูงที่สุดได้แก่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 59.3 รองลงมา คือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร้อยละ 59.2 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ร้อยละ 59.0 และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 52.5 ตามลำดับ

ที่น่าเป็นห่วงทคือ การรับรู้ต่อประวัติด่างพร้อย หรือเกี่ยวโยงทุจริต ผลประโยชน์ต่างตอบแทนบุญคุณ ของบางคนที่ตกเป็นข่าวจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.3 เคยได้ยินต่อบุคคลที่มีประวัติด่างพร้อย เกี่ยวโยงทุจริต ผลประโยชน์ต่างตอบแทนบุญคุณกัน เข้ามาจะถอนทุนคืน มีเพียงร้อยละ 9.7 เท่านั้นที่ไม่เคยได้ยิน



ที่น่าเป็นห่วงนอกจากนี้ คือ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 85.8 ระบุว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลทำงานการเมืองแบบเก่าเหมือนเดิมก่อนการยึดอำนาจ ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 14.2 ระบุว่า รัฐบาลทำงานแบบการเมืองใหม่ และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ ภายหลังมีข่าวต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบว่า แนวโน้มจุดยืนการเมืองของประชาชนต่อการสนับสนุนรัฐบาลลดลงจากร้อยละ 22.3 ในช่วงผ่อนปรนโควิด-19 เหลือร้อยละ 13.5 ในช่วงหลังมีข่าวต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า สารพัดเหตุปัจจัยรุมเร้าทำให้ประชาชนสนับสนุนรัฐบาลลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญซึ่งอาจจะอยู่ในสภาพคล้ายๆ กับช่วงก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาด ที่เคยตกลงไปต่ำสุดที่ร้อยละ 9 เท่านั้น โดยผลโพลนี้พบเหตุปัจจัยสำคัญอยู่ที่ปัญหาด้านการเมือง เพราะประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลกำลังทำการเมืองเก่าแบบเดิมที่เคยเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ ไม่ใช่ “การเมืองใหม่” จึงขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่จริงจังจริงใจต่อประชาชนกลับมาฟังเพลงของ คสช.ทุกวัน ที่เคยสร้างความหวังและคำสัญญาที่เคยอยู่ในบทเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน เราจะทำอย่างซื่อตรง ขอให้เธอจงไว้ใจและศรัทธาแผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอประชาชน”



รวมทั้งขอความกรุณารักษาประเทศชาติและประชาชนให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างสงบสุข โดยทบทวนการตัดสินใจที่กำลังจะทำการเมืองแบบเก่าๆ ที่อาจทำให้วัฏจักรของความเลวร้ายวนกลับมาซ้ำเติมประชาชนทั้งประเทศให้เกิดทุกข์ยากแสนสาหัสบนซากปรักหักพัง แต่จะมีคนแค่หยิบมือได้ประโยชน์จากความวุ่นวายของบ้านเมือง