สธ. เผาทำลายยาเสพติดกว่า 55,941 ล้าน

2020-06-26 16:20:31

สธ. เผาทำลายยาเสพติดกว่า 55,941 ล้าน

Advertisement

สธ. เผาทำลายยาเสพติดให้โทษมูลค่ากว่า 55,941 ล้านบาท เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง ครั้งที่ 50 ประจำปี 2563 เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิ.ย.ของทุกปี โดยมี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทูตานุทูต ผู้บริหารจากทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพบก นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน


ในปีนี้ยาเสพติดให้โทษของกลางจากคลังเก็บรักษายาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ทำการเผาทำลายมีจำนวน 25,301 กิโลกรัมจาก 2,751 คดี มูลค่ากว่า 55,941 ล้านบาท ประกอบด้วย เมทแอมเฟตามีน/ แอมเฟตามีน (ยาบ้า) น้ำหนักกว่า 18,303 กิโลกรัม (ประมาณ 203 ล้านเม็ด) มูลค่าประมาณ 40,674 ล้านบาท เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนักกว่า 5,878 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 12,932 ล้านบาท เฮโรอีนน้ำหนักกว่า 541 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 2,301 ล้านบาท และยังมี MDMA/MDA/MDE (ยาอี/ยาเลิฟ) น้ำหนักประมาณ 0.026 กิโลกรัม (107 เม็ด) ฝิ่นน้ำหนักกว่า 9 กิโลกรัม โคคาอีนน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ยาเสพติดอื่นๆ น้ำหนักรวมกว่า 557 กิโลกรัม นอกจากนี้ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมเผาวัตถุออกฤทธิ์ของกลาง จำนวนกว่า 1,187 กิโลกรัมจาก 724 คดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี และกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมเผาทำลาย ภาชนะ หีบห่อ บรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานยาเสพติดรวม 15 กล่อง

ของกลางทั้งหมดจะถูกเผาทำลายด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชัน (Pyrolytic Incineration) ที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็ว ในปีนี้ได้กำหนดวันเผาทำลายยาเสพติดให้โทษ 3 วัน คือวันที่ 26 มิถุนายน 2563 จำนวนกว่า 8,466 กิโลกรัม วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 จำนวนกว่า 8,275 กิโลกรัม และวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 จำนวนกว่า 8,558 กิโลกรัม

สถิติการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางตั้งแต่ปี 2520-2563 รวม 50 ครั้ง มีน้ำหนักรวมกว่า 170,545 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 273,331 ล้านบาท มากที่สุดได้แก่ เมทแอมเฟตามีน/ แอมเฟตามีน ฝิ่นและอื่นๆ เฮโรอีน และเอ็คซ์ตาซี่ ตามลำดับ

นายอนุทิน  กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่หลักในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ป้องกันไม่ให้กลับมาเสพซ้ำ ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 ตั้งเป้านำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด 210,982 คน แบ่งเป็นระบบสมัครใจ 113,382 คน บังคับบำบัด 56,600 คน ต้องโทษ 26,000 คน และระบบคุมความประพฤติ 15,000 คน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 - 15 มิถุนายน 2563 นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดฯ แล้ว 128,520 คน คิดเป็นร้อยละ 60.92 จากระบบสมัครใจ 48,479 คน ระบบบังคับบำบัด 66,253 คน และระบบต้องโทษ 13,788 คน ทั้งนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศพร้อมให้คำปรึกษาและนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาที่ได้มาตรฐานสากล โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเลิกยาเสพติดได้ที่สายด่วน 1165 ตลอด 24 ชั่วโมง