ปากีสถาน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ หรือ พีไอเอ (Pakistan International Airlines : PIA) สายการบินแห่งชาติของปากีสถาน สั่งพักงานและสอบสวน นักบินโดยสารในสังกัด 150 คน ที่ต้องสงสัยถือใบอนุญาตการบินปลอม ความเคลื่อนไหวมีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือน แถลงต่อรัฐสภาว่า นักบินโดยสารพาณิชย์จำนวนมาก อาจจะถือใบอนุญาตปลอม หรือโกงข้อสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาต
คำสั่งพักงานนักบินยังมีขึ้นหลังจากทางการปากีสถาน เปิดเผยผลการสอบสวนเบื้องต้น เหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารของพีไอเอ ตกกลางย่านชุมชนในเมืองการาจี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเกือบทั้งลำ 97 คน รอดชีวิตเพียงแค่ 2 คน ซึ่งพบว่าเป็นความผิดพลาดของ “นักบินและเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบิน”
นายกูห์ลาม ซาร์วาร์ ข่าน รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนปากีสถาน เผยต่อที่ประชุมรัฐสภา ในกรุงอิสลามาบัด เมื่อวันพุธ ว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้น อุบัติเหตุเที่ยวบิน พีเค 8303 สายการบินพีไอเอ ตก ในเมืองการาจี ทางภาคใต้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า เกิดจากความผิดพลาดของนักบิน และหอควบคุมการบินของท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ ที่นักบินกำลังจะนำเครื่องบินลงจอด โดยกล่องบันทึกข้อมูลระบุว่า ขณะเครื่องบินตก กัปตันและนักบินผู้ช่วย กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งญาติของทั้ง 2 คนติดเชื้อ และไม่ได้กดปุ่มล้อให้กางอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้ท้องเครื่องบินครูดกับพื้นรันเวย์ จนต้องนำเครื่องบินขึ้น ในระหว่างความพยายามลงจอดครั้งที่ 2
นายข่านเผยว่า การสอบสวนไม่พบความผิดปกติใด ๆ เกี่ยวกับตัวเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ลำเกิดเหตุ ซึ่งบินไปจากเมืองลาฮอร์ ในรัฐปันจาบ ทางภาคเหนือ
นายข่านเผยอีกว่า หลังอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของปากีสถานตก ในปี 2561 กระทรวงฯ ทำหารสอบสวน ทำให้พบว่า นักบินโดยสารพาณิชย์ของปากีสถาน 262 คน หรือกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด 860 คนที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา ในเที่ยวบินสายภายในประเทศปัจจุบัน ถือใบอนุญาตการบินปลอม หรือได้ใบอนุญาตจากการโกงสอบ
โฆษกพีไอเอ แถลงยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า การสอบสวนภายในของบริษัทพบว่า นักบินของพีไอเอประมาณ 150 คน จากทั้งหมด 434 คน มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนักบินปลอม หรือได้ใบอนุญาตโดยไม่ถูกต้อง คณะผู้บริหารของพีไอเอสั่งพักงานและสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับนักบินต้องสงสัยทั้ง 150 คนแล้ว.