"สมชัย”แฉ 4 คนในใบรายชื่อจัดทำโพลไม่ได้เลือกตั้งซ่อมลำปาง แนะ กกต. ลงพื้นที่เปิดหีบจับผีไปเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพบเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของการเลือกตั้ง เช่น คลิปซื้อเสียงที่ทำกันตอนกลางวันและเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการ และ กกต. ควรจะต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้พยานที่พร้อมจะให้ข้อมูลก็อยู่ในที่ปลอดภัยและเมื่อ กกต. จังหวัดต้องการจะสอบสวนก็พร้อม ส่วนใบรายชื่อผู้จัดทำโพล ชื่อผู้จัดทำมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐและมีเบอร์ติดต่อชัดเจน กกต. จำเป็นต้องไปสอบว่ามีการจัดทำโพลจริงหรือไม่อย่างไร รวมทั้งสอบคนที่มีรายชื่อในใบนั้นว่าได้ให้ชื่อและเลขบัตรประชาชนไปหรือไม่ มีผลประโยชน์อย่างไร นอกจากนี้ตนยังทราบว่า 4 ชื่อในใบรายชื่อนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ สิ่งที่น่าสนใจคือในวันเลือกตั้ง มีคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งแทนคนเหล่านั้นหรือไม่ ต้องใช้อำนาจ กกต. ในการเปิดหีบและตรวจสอบว่ามีคนสวมรอยในการใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ต้องมีการพิสูจน์รายชื่อ พร้อมสอบกรรมการประจำหน่วยว่ามีผีไปเลือกตั้งได้อย่างไร
นายสมชัย กล่าวต่อว่า จุดอ่อนในการเลือกตั้งครั้งนี้คือการสวมหน้ากาก และไม่มีการขอให้เปิดหน้ากากดูด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสในการทุจริตที่แฝงมากับการเลือกตั้ง เรียกว่า “ลำปางโมเดล” ทั้งนี้ตนยังตั้งคำถามว่า กกต. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงลงไปตรวจสอบแล้วหรือยัง ตนอยากเห็น กกต. กลางมีความกระตือรือร้นและเอาจริงเอาจังในการตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กกต. จังหวัด และการประชุมในวันที่ 30 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ อย่าบอกว่าตรวจสอบแล้วทุกอบ่างเรียบร้อย เพราะยังมีอีกหลายเรื่องยังมีข้อสงสัย
นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าถ้ามีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเป็นจริง ต่ำสุดคือใบเหลือง คือจัดการเลือกตั้งใหม่ และถ้าสาวไปถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ไม่ยาก และถ้าเกี่ยวข้องกับผู้สมัครก็ให้ใบส้มหรือใบแดงได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยของผู้ที่เกี่ยวข้อง คนที่เป็นพยานต้องไปอยู่ในที่ปลอดภัย กกต. ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าให้ข้อมูลกับ กกต. ก็ต้องคุ้มครองพยาน รวมทั้งคนที่เดินแจกเงินเอง มาตรา 46 กล่าวว่าถ้าบุคคลที่ทำความผิดแต่ให้การที่มีประโยชน์กับ กกต. ก็อาจจะไม่พิจารณาลงโทษ แต่ถ้าทำความผิดแล้วไม่ได้ให้ถ้อยคำที่มีประโยชน์จะต้องโดนจำคุก 1-10 ปี ตนว่ามันไม่คุ้ม ถ้าให้ทำงานด้วยค่าจ้างไม่กี่พัน แต่ต้องติดคุก 10 ปี ทางที่ดีควรให้ปากคำที่เป็นประโยชน์กับ กกต.