"พิธา" เสนอ กมธ.โควิดตรวจสอบงบกลาง

2020-06-25 16:55:13

"พิธา" เสนอ กมธ.โควิดตรวจสอบงบกลาง

Advertisement

"พิธา" เสนอ กมธ.วิสามัญติดตามการใช้เงินตาม พ.ร.ก. 3 ฉบับต้องตรวจงบกลางด้วย ชี้ควรมีเวลามากกว่า 120 วัน 

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตาม พ.ร.ก. 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)  ที่เสนอญัตติด่วนยื่นต่อสภาฯให้มีการจัดตั้งโดยพรรคก้าวไกล โดยในสัปดาห์ที่แล้วเป็นการประชุมครั้งแรก ซึ่งที่ประชุมได้เลือกนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  ทำหน้าที่ประธาน กมธ. โดยในวันนี้เป็นการประชุมเรื่องขอบเขตการทำงานของ กมธ.วิสามัญคณะนี้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการได้ เสนอว่า กมธ.นี้ควรต้องได้ตรวจสอบงบกลางที่ได้รับโอนย้ายมาจากงบประมาณปี 2563 ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมงบทั้งหมด เพราะงบกลางเป็นงบที่มีแนวโน้มการใช้แบบสะเปะสะปะ และ กมธ.คณะนี้ควรต้องติดตามตรวจสอบรายละเอียดในมาตรการต่างๆของรัฐบาลด้วย เช่น มาตรการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการที่รัฐบาลยังไม่ให้นักดนตรีกลับมาทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งเป็นมาตรการคลายล็อกที่ไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก กมธ.วิสามัญชุดนี้จึงควรจะต้องเข้ามาดูด้วยว่าจะช่วยเหลือเยียวยา รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนอย่างไรได้บ้าง และประเด็นสุดท้าย กมธ.วิสามัญชุดนี้ควรต้องมาอายุมากกว่า 120 วัน เพื่อให้เป็นการตรวจสอบติดตามในระยะยาว เพื่อดูประสิทธิผลด้วย เพราะ พ.ร.ก.กู้เงินให้อำนาจรัฐบาลกู้เงินถึงก.ย. 2564 

ด้านนายอดิศร เพียงเกษ เสนอว่า กมธ.วิสามัญคณะนี้ควรเชิญ นายกรัฐมนตรีมาตอบคำถามและเสนอวิสัยทัศน์ต่อ กมธ.เพราะควรต้องตรวจสอบฝ่ายการเมืองคือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่ไปตรวจสอบข้าราชการในหน่วยงานต่างๆเท่านั้น เพราะเป็นเพียงกลไกที่นายกรัฐมนตรีสั่งการมา

ทั้งนี้นายอดิศรได้ขอให้มีการลงมติกันในที่ประชุมว่าควรเชิญนายกรัฐมนตรีมาหรือไม่ แต่นายไพบูลย์ ได้ตัดบท ส่งผลทำให้นายอดิศร ประท้วงโดยการเดินออกจากที่ประชุม

ในช่วงท้ายการประชุมนายไพบูลย์ ได้สรุปว่า จะพิจารณาโดยกำหนดกรอบการพิจารณาแค่ 3 ฉบับก่อน ส่วนเรื่องขอบเขตว่าจะครอบคลุมไปถึง พ.ร.บ. โอนงบหรืองบส่วนอื่นๆหรือไม่ ต้องพิจารณาตรวจสอบ พ.ร.ก. กู้เงินทั้ง 3 ฉบับให้เสร็จก่อน แล้วประธานจะถามที่ประชุมว่าจะพิจารณาเรื่องอื่นๆต่อหรือไม่ ทั้งนี้ได้กำหนดว่าการประชุมในครั้งถัดไปคือวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. 2563ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและตอบคำถามกรรมาธิการในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และในการประชุมวันอังคารที่ 30 มิ.ย. 2563 จะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมาให้ข้อมูลและตอบคำถามเรื่อง พ.ร.ก. สองฉบับในคราวเดียวกัน คือ พ.ร.ก. การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 และ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563