อึ้งสาวโกงเงิน 33.9 ล้านโอนเล่นเว็บพนันออนไลน์ 26 ล้าน เหลือให้อายัดแค่ 3 แสน
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ความคืบหน้ากรณีตำรวจจับกุมตัว น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการและใช้เอกสารปลอมยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการตั้งแต่ปี 2562 รวมเป็นเงิน 33.9 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายักยอกเงินดังกล่าวไปจริงเพียงคนเดียวโดยใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายและนำเงินบางส่วนไปเล่นการพนันออนไลน์
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.วิธิวัตน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และชุดสอบสวนเพื่อติดตามความคืบของคดี ภายหลังชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เข้าค้นที่ที่บ้านพักของ น.ส.ขนิษฐาพร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม เอกสารการเงินจำนวนมาก รวมทั้งสมุดเช็คงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ ภายในเช็คมีการลงลายมือของผู้มีอำนาจสั่งจ่ายโดยไม่กรอกตัวเลขจำนวนเงินและชื่อบุคคลที่สั่งจ่าย
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า พบเช็คสั่งจ่าย นางประชิด วงศ์ประภารัตน์ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ จำนวนเงิน 3 แสนบาท จากเช็คงบประมาณจังหวัด ธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ อีก 1 ใบมีลายเซ็นผู้มีอำนาจสั่งจ่าย 2 ราย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 63 นอกจากนั้นพบการโอนเงินเข้าออกสมุดบัญชีธนาคารสูงสุด 20 ครั้งต่อวัน มียอดเงินฝากเข้าถอนออกในวันเดียวกันเพื่อโอนผ่านระบบอีแบงค์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องรายอื่น และยังไม่ออกหมายจับผู้ใดเพิ่มเติม สำหรับการสอบปากคำ นายธัญเทพ กิตติธากรณ์ อายุ 28 ปี สามี น.ส.ขนิษฐา และนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี มารดาผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ทราบเรื่องการทุจริตและการเล่นพนันออนไลน์ แต่ในทางลับเจ้าหน้าที่พบเบาะแสที่น่าสนใจหลายประเด็น
พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินผ่านการโอนในระบบอีแบงก์ของผู้ต้องหา ล่าสุดได้อายัดเงินจำนวน 3 แสนบาทที่นำไปจ่ายค่าซื้อบ้านโดยโอนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( ธอส.) สาขาประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นพบว่าผู้ต้องหามีการโอนเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ 2 เว็บไซต์ มีการโอนสูงสุดครั้งเดียว 26 ล้านบาท และมีการโอนผ่านอีแบงก์มากกว่า 50 ครั้ง ขณะที่ชุดสืบสวนได้เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาในเรือนจำเพิ่มเติม เพื่อสอบเส้นทางการโอนเงินทั้งหมด
มีรายงานว่าสำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีการเซ็นชื่อในสุมดเช็ค งบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มี 2 รายชื่อ แต่จากการตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้แจ้งความคดีเช็คหายกรณีพบสุมดเช็คที่บ้านพักของผู้ต้องหา ซึ่งปกติเช็คดังกล่าวต้องเก็บไว้ในตู้นิรภัยและมีสมุดลงรายการควบคุมการเบิกจ่ายจากเช็คตามลำดับหมายเลข สำหรับความเสียหายจากการยักยอกงบประมาณแผ่นดิน มีการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเลคทรอนิกส์ หรือ GFMIS ประกอบด้วยบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท รวม 33.9 ล้านบาท พบการกระทำความผิดสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2562 ต่อเนื่องนาน 1 ปี มีการกระทำความผิด 53 ครั้ง
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.วิธิวัตน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน เดินทางไปพบนางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่โต๊ะทำงานของผู้ต้องหาที่อาจหลงเหลือเชื่อมโยงเบาะแสการทุจริต โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดได้ล็อคประตูกระจกทางเข้าสำนักงานเพื่อไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ จากนั้น พ.ต.อ.วิธิวัตน์ นางกัลยารัตน์ และ นางประชิด เข้าพบนายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด โดยทั้งหมดปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอ้างว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดรายหนึ่งกล่าวตำหนิสื่อมวลชนด้วยท่าทีไม่พอใจ พร้อมระบุว่า “เห็นใจกันบ้าง อย่าเอาแค่ขายข่าว ผู้เกี่ยวข้องกำลังหาทางแก้ไข”