พ่อสุดทนโร่แจ้งความผวาครูจีบลูกสาววัยเพียง 9 ปี

2020-06-24 16:15:15

พ่อสุดทนโร่แจ้งความผวาครูจีบลูกสาววัยเพียง 9 ปี

Advertisement

พ่อสุดทน เข้าแจ้งความ ปมลูกสาววัยเพียง 9 ขวบถูก "ครู" จีบผ่านเมสเซนเจอร์ หวั่นไม่ปลอดภัย

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายจ่อย (นามสมมติ) อายุ 39 ปี นำ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เพชรรัตน์ ศรีเมือง รอง ผกก.สอบสวน .สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี โดยระบุว่า ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ชั้น ป.5 พูดคุยและสนทนาทางเมสเซ็นเจอร์ในลักษณะเชิงชู้สาว ทั้งที่ครูมีอายุคราวปู่ใกล้เกษียณ แถมยังเคยเรียกลูกสาวเข้าไปในห้องพักครูแล้วโอบกอดลูกสาวด้วย จึง เกรงว่าลูกจะไม่ปลอดภัย พร้อมนำการสนทนาทางเมสเซ็นเจอร์มามอบเป็นหลักฐาน

โดย นายจ่อย เล่าว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม. 5 ส่วนคนเล็กอายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยลูกทั้งสองอาศัยอยู่กับยาย ส่วนตนแยกไปอยู่อีกบ้านหลังหนึ่งที่ ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยตนจะไปรับลูกมาอยู่กันด้วยในช่วงปิดเทอม ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนไปหาลูกสาวทั้งสองคนที่บ้านยายเพราะใกล้เปิดเทอม ยายจึงเล่าให้ฟังว่า น.ส.เอ ลูกสาวคนโต สมัครเฟซบุ๊กให้ ด.ญ.บี เอาไว้ส่งงานและส่งการบ้านให้ครู ตนจึงรู้รหัสเฟซบุ๊กของ ด.ญ.บี ต่อมา น.ส.เอ พี่สาว สังเกตเห็นน้องสาวเล่นมือถือโดยเฉพาะเฟซบุ๊กนานผิดปกติ จึงแอบเปิดเฟซบุ๊กของน้องสาวดู ก็พบว่าน้องสนทนาทางเมสเซ็นเจอร์กับผู้ชายที่ใช้ชื่อว่า "ครู ป.5 นคว" ในลักษณะเชิงชู้สาว น.ส.เอ จึงได้ก๊อปปี้การสนทนาของน้องสาวกับครูมาให้ยายดู เมื่อยายเห็นข้อความสนทนากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับหลานที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสา จึงนำเรื่องมาบอกตน




นายจ่อย เล่าอีกว่า ตนรู้สึกโกรธหลังจากอ่านเมสเซ็นเจอร์จนจบการสนทนา จึงเรียก ด.ญ.บี มาสอบถาม ก่อนเล่าให้ฟังว่า ครูคนดังกล่าว เป็นครูผู้ชายสอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้น ป.5 และเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊ก โดยครูคนดังกล่าวมี 2 เฟซบุ๊ก เป็นเฟซส่วนตัว กับเฟซบุ๊กสำหรับไว้ให้เด็กนักเรียนส่งงานและการบ้าน โดยเมื่อเดือน มี.ค. ครูเข้ามาพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว นอกจากนี้ครูเคยเรียก ด.ญ.บี ให้เข้าไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ภายในห้องพักครู ก่อนโอบไหล่แล้วให้เงินซื้อขนม และอาสาพามาส่งที่บ้าน คนเป็นถึงครูแต่ทำแบบนี้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว และอาจตัดสินใจให้ลูกย้ายโรงเรียน

ด้าน พ.ต.ท.เพชรรัตน์ กล่าวว่า ผู้ปกครองพาลูกสาวมาแจ้งความที่โรงพักเพราะไม่สบายใจ และมีความกังวลกรณีลูกสาวคุยกับคนอื่นผ่านทางเมสเซ็นเจอร์ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งความ จะตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎฆมาย ซึ่งจะต้องรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามระดับชั้น เพราะผู้บังคับการให้ความสนใจในเรื่องนี้ หากผู้บังคับบัญชาสั่งการมาอย่างไร ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป