"ไพบูลย์" ระบุแกนนำ พปชร. ส่งเทียบเชิญ "บิ๊กป้อม" ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดไม่ผิด ชี้ทหารมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่น ทหารมาเป็นนักการเมืองดีที่สุด
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีแกนนำของ พปชร.ไปส่งเทียบเชิญพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มานั่งหัวหน้าพรรค ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเป็นการเข้าไปขอเข้าพบ เพื่อขอร้องให้พล.อ.ประวิตร มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะพล.อ.ประวิตรเป็นเสาหลักของพรรค เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพและทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น ซึ่งการไปขอร้องนั้น แกนนำก็พากันไป ในที่ที่พล.อ.ประวิตรสะดวก ส่วนตัวขอยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร นั้นไม่ได้อยากจะเป็นหัวหน้าพรรคเลย แต่ด้วยเหตุผลต่าง ๆจึงต้องยอมรับตำแหน่ง และทุกคนในพรรคก็มีความต้องการที่อยากจะให้พล.อ.ประวิตรมาเป็น
เมื่อถามว่าสถานที่ที่ไปกันนั้นใช่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด หรือไม่ นายไพบูลย์ระบุว่า ก็เป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวนั้นทราบอยู่แล้ว โดยเข้าไปใช้เวลาไม่นาน ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปร้องเรียนยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย และร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของมูลนิธิที่ระบุไว้คือห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง นายไพบูลย์ยืนยันไม่เป็นการผิดกฎหมายอย่างแน่นอน พร้อมเปรียบว่าถ้ามูลนิธิเป็นสถานที่ราชการ งั้นนักการเมืองก็ห้ามไป กกต.สิ
นายไพบูลย์ บอกต่ออีกว่า ตนตั้งมูลนิธิมามากซึ่งก็จะมีข้อบังคับอยู่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ไปนั้นคือไปหา พล.อ.ประวิตรไม่ใช่ไปหามูลนิธิ และที่ไปเนื่องจากว่าพล.อ.ประวิตรสะดวก ยืนยันว่าไม่ได้ใช้พื้นที่ของมูลนิธิเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ส่วนหากใครมองว่าเป็นเรื่องผิด จะดำเนินการไปฟ้องก็ไปฟ้องได้เลย และตนก็อยู่ในนั้นหากจะฟ้องก็มาฟ้องตนด้วย ยืนยันไม่เห็นว่าผิดตรงไหน
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หากพล.อ.ประวิตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะถูกมองว่าเป็นพรรคของทหารนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า คนที่เคยเป็นทหาร มาเป็นนักการเมืองถือว่าเหมาะที่สุด เพราะทหารเสียสละเพื่อชาติ และการที่ทหารมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นแล้ว ทหารมาเป็นนักการเมืองถือว่าดีที่สุด
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะเกิดขึ้นวันที่ 27 มิ.ย.นี้ จะมีการเสนอ2วาระการประชุม เรื่องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เดิมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มี 34 คน จะเหลือ 29 คน มีรองหัวหน้าพรรค 9 คน ซึ่ง นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรคจะมาทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี