เทศกาลกินเนื้อสุนัขที่โลกตะลึงของจีน เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายแข็งขืน ต่อการรณรงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ที่กำลังถูกรุมเร้าจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ แต่นักเคลื่อนไหวก็หวังว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย
เทศกาลเปิบเนื้อสุนัขประจำปี 10 วันในเมืองหยูหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายพันคน ซึ่งหลายคนก็จะมาเลือกซื้อสุนัขที่โชว์อยู่ในกรงเพื่อไปปรุงอาหาร แต่บรรดานักรณรงค์ กล่าวว่า งานในปีนี้ นักท่องเที่ยวมีจำนวนลดลงอย่างมาก
รัฐบาลจีนร่างกฎหมายฉบับใหม่ห้ามการค้าสัตว์ป่าและคุ้มครองสัตว์เลี้ยง และกลุ่มนักรณรงค์ ก็หวังว่าในปีนี้จะเป็นการจัดเทศกาลอื้อฉาวนี้เป็นครั้งสุดท้าย
"ผมได้แต่หวังว่า เมืองหยูหลินจะเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ประโยชน์ของสัตว์เท่านั้น แต่เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนด้วย" ปีเตอร์ หลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายของจีน ประจำองค์กร ฮิวเมน โซไซตี อินเตอร์เนชั่นแนล (Humane Society International) หนึ่งในองค์กรปกป้องสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การปล่อยให้ผู้คนมารวมตัวกันหมู่มากเพื่อซื้อขายและบริโภคเนื้อสุนัขในตลาดและร้านอาหารที่แออัดแบบนี้ เสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพได้
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ซึ่งเชื่อว่ามีต้นตอมาจากค้างคาวเกือกม้า ก่อนที่จะกระโดดสู่มนุษย์ในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย บีบให้จีนต้องทบทวนความสัมพันธ์กับสัตว์และให้คำมั่นว่าจะห้ามการค้าสัตว์ป่า
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มณฑลเซินเจิ้น กลายเป็นเมืองแรกของจีนที่ห้ามการบริโภคเนื้อสุนัข ซึ่งคาดว่า มณฑลอื่น ๆ จะปฏิบัติตาม
นอกจากนี้ ทางกระทรวงเกษตรของจีน ก็ตัดสินใจขึ้นบัญชีจัดให้สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ปศุสัตว์ แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนว่าการจัดประเภทใหม่เช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อการค้าสุนัขในเมืองหยูหลินอย่างไร
จาง เกียนเกียน นักเคลื่อนไหวพิทักษ์สิทธิสัตว์ ซึ่งอยู่ในเมืองหยูหลินในวันเสาร์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาก่อนที่เทศกาลกินเนื้อสุนัขจะถูกห้าม เธอบอกว่า จากสิ่งที่พวกเราเข้าใจจากการพูดคุยกับผู้ขายเนื้อ บรรดาแกนนำกล่าวว่า การบริโภคสุนัขนั้น จะไม่ได้รับอนุญาตในอนาคต แต่การห้ามบริโภคเนื้อสุนัขนั้นจะเป็นเรื่องยาก และจะต้องใช้เวลาพอสมควร