ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 24 กาฬสินธุ์ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ เจาะข้อมูลเชิงลึกที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร พร้อมเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงครูพละหนุ่มที่ย้ายมาบรรจุครูในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่ถูกผู้ปกครองแจ้งความข่มขืนนักเรียนหญิงวัย 14 ปีที่ จ.มุกดาหาร
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคดี 5 ครู พร้อมรุ่นพี่ 2 คน ข่มขืน 2 นักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี และม.4 อายุ 16 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ซึ่งตอนนี้น้อง ม.2 อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.มุกดาหาร พร้อมกับแม่และยาย ขณะที่น้อง ม.4 อยู่ในความดูแลของบ้านพักฯ มาก่อนหน้านี้แล้ว และต่อมามีเหยื่อรายใหม่โผล่ขึ้น โดยแม่ได้พา ด.ญ.อายุ 14 ปี นักเรียนหญิงเหยื่อรายใหม่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มกับครู 1 ใน 5 ครู ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว โดย ด.ญ.วัย 14 ปี รายนี้ ถูกครู 1 ใน 5 ข่มขืนเมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 นอกจากนี้ยังได้แจ้งความเอาผิดครูเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นครูพละหนุ่มอายุ 30 กว่าปี โดยถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.62 ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ย้ายไปจากโรงเรียนที่เกิดเหตุ ไปสอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ได้ประมาณ 6 เดือน รวมเป็นครูที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีตอนนี้ทั้งหมด 6 คน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับนายทวี ทะนอก ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 24 กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของสถานศึกษาที่ครูพละหนุ่มย้ายมาบรรจุที่โรงเรียนพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์
โดยนายทวี กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลแล้ว เบื้องต้นได้มอบหมาย รอง สพม.24 และศึกษานิเทศก์ ประจำ สพม.24 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเบื้องต้นทราบว่าครูพละคนดังกล่าวมีตัวตนจริง ซึ่งจากเดิมเป็นพนักงานราชการ แต่ได้ย้ายจากโรงเรียนเดิมที่ จ.มุกดาหารมาบรรจุเป็นครูผู้ช่วยและสอนวิชาพละในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา
นายทวี กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องได้มอบให้ รอง ผอ.สพม.24 และศึกษานิเทศก์ เดินทางไปสภ.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อขอข้อมูลเชิงลึกและสำนวนกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามตัวครูพละหนุ่มคนนั้น ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลพร้อมแล้ว ทาง สพม.24 ก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยร้ายแรงตามระเบียบขั้นตอนของกฏหมายกับครูพละทันที ซึ่งเชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ และหากผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอดคล้องตรงกันกับสำนวนหรือข้อมูลที่ได้รับจาก สภ.ผึ่งแดด ว่ากระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป ซึ่งโทษวินัยสูงสุดคือไล่ออกจากราชการ ทั้งนี้หากเรื่องมีมูลผู้บังคับบัญชาสามารถมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ทางสพม.24 ยังได้มีการประชุมผู้บริหารทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเปิดเทอมและกำชับให้บุคคลากรทางการศึกษาทุกคนเข้มงวดในจรรยาบรรณและจริยธรรมอีกด้วย