16มิ.ย.63 เป็นอีกวันที่ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งจากภายในประเทศและผู้เดินทางกลับที่กักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ยอดสะสมผู้ป่วย 3,135 ราย รักษาหายเพิ่ม 6 ราย รวมที่กลับบ้านไปแล้ว 2,993 ราย
นับเป็น 0 ติดต่อกันเป็นวันที่ 22 และย้อนไปถึงวันออกลอตเตอรี่งวดแรกหลังโควิด-19 เมื่อ 16 พ.ค.63 ก็เป็น 0 เหมือนกัน อย่างกะล็อกเลข ซึ่งคงไม่ใช่
การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 125,064 รวมยอดสะสม 8,113,679 ผู้เสียชีวิตรวม 439,085 สหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด 2,182,950 เสียชีวิตรวม 118,283 อินเดีย ยังอยู่อันดับที่ 4 ยอดผู้ป่วยสะสม 343,026 เสียชีวิต 9,915 ราย ประเทศจีน ก็กลับมาพบผู้ป่วยเพิ่มในระลอก 2 อีก 40 ราย ทั้งมีรายงานว่า ประเทศในเอเชียพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ปากีสถาน บังคลาเทศ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
แต่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 16 มิ.ย.63 ยังไม่มีการนำเสนอแนวทางทราเวล บับเบิล หรือการจับคู่ด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคโควิด-19 โดยยังมีความกังวลของบางฝ่าย
1.โครงการ กำลังใจ ให้กับเจ้าหน้าที่ อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สต.1.2 ล้านคน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าเดินทางผ่านผู้ประกอบการท่องเที่ยว 2,000 บาทต่อคน เดินทางไม่เกิน 2 วัน 1 คืน โดยธนาคารกรุงไทยจะจัดทำแพลตฟอร์ม
2.โครงการเราไปเที่ยวด้วยกัน เป็นการมอบส่วนลดค่าจองห้องพักสำหรับประชาชนทั่วไป โดยช่วยจ่ายค่าห้องพัก 40% ต่อคืน ให้เลือกโรงแรมได้เองและจะได้รับแจกเงินเที่ยว 600 บาทต่อคืน (สูงสุดไม่เกิน 5 คืน) เมื่อใช้จ่ายในโรงแรมสำหรับการท่องเที่ยวข้ามจังหวัด โดยโอนเงินเข้าแอปฯ "เป๋าตัง"
3.โครงการเที่ยวปันสุข จะสนับสนุนให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนเดินทางท่องเที่ยว โดยจำหน่ายบัตรโดยสาร ทั้งเครื่องบิน รถเช่า รถขนส่ง ในอัตราไม่เกิน ร้อยละ 40 (ไม่เกิน 1,000 บาท) นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่เชื่อมโยงกันระหว่าง “เที่ยวปันสุข” และ “เราไปเที่ยวด้วยกัน” หากมีการจองห้องพักในโครงการ “เราไปเที่ยวด้วยกัน” จะสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปกลับในราคา 2,500 บาท อีก 1 สิทธิ์ เริ่ม ก.ค.-ต.ค. เป็นเวลา 4 เดือน โดยจะให้ลงทะเบียนผ่าน แพลตฟอร์มของธนาคารกรุงไทย เพื่อรับโปรโมชั่นโค้ด
ส่วนที่ประเทศจีน ทางเทศบาลกรุงปักกิ่งได้ประกาศขยายเขตการล็อกดาวน์ครอบคลุมชุมชนอีก 7 แห่งในเขตซีเฉิง เนื่องจากพบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ตลาดซินฟาตี้เป็นอย่างน้อย 28 แห่งแล้ว โดยทางการไม่อนุญาตให้ประชาชนในพื้นที่จุดเสี่ยง เดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง และห้ามเรียกใช้รถรับจ้างไม่ประจำทาง อาทิ แท็กซี ส่วนระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทและทุกเส้นทางในกรุงปักกิ่งให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และทุกคนที่อยู่ภายในอาณาเขตของสถานีต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
แม้สถานการณ์ต่างประเทศจะทำให้ประชาชนบางส่วนขาดความมั่นใจ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้า และสวมหน้ากาก ท่องให้คล่องปากจะไม่ยอมให้การ์ดตกแน่นอน
ไหน ๆ ก็เท้าความถึงวันที่ 16 เดือนก่อน เปรียบเทียบกัน ยอดผู้ป่วยสะสมขณะนั้น 3,025 ราย วันนี้ 3,135 เพิ่มขึ้น 110 ราย ในรอบ 1 เดือน ส่วนคนหายป่วยกลับบ้าน เดือนที่แล้ว 2,855 ราย วันนี้ 2,993 ราย คิดเป็น 108 ราย
รวมถึงประเทศนิวซีแลนด์ ที่เพิ่งประกาศไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 17 วันและยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ก็กลับมาพบผู้ป่วยอีก 2 ราย ในรอบ 24 วัน
ในประเทศไทย การติดเชื้อลดลงจนเหลือ 0 ติดต่อถึง 22 วัน นอกจากการผ่อนคลายมาตรการ ให้กิจกรรม/กิจการ ที่มีระดับความเสี่ยงสูง ในระดับสีแดงกลับมาดำเนินการได้ พร้อมกับการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำข้อกำหนด และมีการประสานงานจากสถานทูตหลายประเทศแสดงความต้องการ ส่วนประเด็นว่า การที่ประเทศจีนมีการระบาดระลอกสองจะพิจารณาอย่างไร ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่ได้มองว่าประเทศใด จะพิจารณาสถานการณ์ของประเทศนั้น ๆ มีวิธีการป้องกันอย่างไร ตรวจสอบผู้ติดเชื้ออย่างไร ประเทศที่จะเข้ามา ก็จะพิจารณาด้วยว่า ระบบการป้องกันของประเทศไทยอย่างไร และนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ยอมรับวิธีการของไทยได้หรือไม่ข้อกำหนดทั้งหมดจะนำเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณา
ส่วนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานผลการประชุม ครม.สำหรับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยที่ประชุมเห็นชอบ 3 โครงการคือ 
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันที่มาของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตลาดซินฟาตี้ ว่ามาจากจุดใดกันแน่ แต่เบื้องต้นพบร่องรอยของเชื้อโรคบนเขียงแล่ปลาแซลมอน ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสดในเมือง 14 แห่งรวมถึงกรุงปักกิ่ง ระงับการจำหน่ายปลาแซลมอนแล้ว
