ทรัมป์จ่ออนุมัติคำสั่ง "ปฏิรูปตำรวจ"หลังมวลชนประท้วงกดดันหนัก

2020-06-16 14:06:53

ทรัมป์จ่ออนุมัติคำสั่ง "ปฏิรูปตำรวจ"หลังมวลชนประท้วงกดดันหนัก

Advertisement

วอชิงตัน, 16 มิ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (15 มิ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะลงนามคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อปฏิรูปหน่วยงานตำรวจในวันอังคาร (16 มิ.ย.)


“เป้าหมายใหญ่ของเราคือ เราต้องการกฎหมายและความสงบเรียบร้อยที่มีความยุติธรรม เหมาะสม และปลอดภัย” ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว “นี่ไม่ใช่แค่กฎหมายและความสงบเรียบร้อยเท่านั้น แต่มันเกี่ยวพันถึงความยุติธรรมด้วย”


ทรัมป์ตัดสินใจลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร ระหว่างที่ประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหน่วยงานตำรวจ หลังจอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันวัย 46 ปีเสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุมที่เมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จุดประกายการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านพฤติกรรมโหดร้ายของตำรวจและการเหยียดเชื้อชาติ

ประชาชนยิ่งประท้วงหนักขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจผิวขาวยิงเรย์ชาร์ด บรูกส์ (Rayshard Brooks) ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันวัย 27 ปีจนเสียชีวิต ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ก่อน




“เราหมดความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และวิธีเดียวที่จะเยียวยาบาดแผลเหล่านี้ได้บางส่วน คือการนำตัวคนผิดมารับโทษ และรื้อระบบสำนักงานตำรวจครั้งใหญ่” ญาติของบรูกส์กล่าวเมื่อ

วันจันทร์ (15 มิ.ย.) เมื่อถูกถามถึงการเสียชีวิตของบรูกส์ช่วงบ่ายวันจันทร์ (15 มิ.ย.) ทรัมป์กล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ที่ “น่ากังวลอย่างมาก”


“ผมคิดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย” ทรัมป์กล่าว “ผมได้ศึกษาเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และจะจัดทำรายงานที่เข้มข้นในวันนี้ ซึ่งเราจะพูดถึงรายละเอียดบางส่วนในวันพรุ่งนี้”


เมื่อวันอาทิตย์ (14 มิ.ย.) สำนักงานแพทย์สอบสวนของเทศมณฑลฟูลตันระบุในแถลงการณ์ว่า บรูกส์ถูกยิงจากด้านหลัง 2 นัด สาเหตุการเสียชีวิตคืออวัยวะภายในได้รับความเสียหาย และเสียเลือดมากจากบาดแผล


แกร์เรตต์ รอล์ฟ (Garrett Rolfe) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงบรูกส์ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เดวิน บรอสนัน (Devin Brosnan) เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ถูกย้ายไปปฏิบัติงานด้านธุรการ ส่วนเอริกา ชีลดส์ (Erika Shields) ผู้นำสำนักงานตำรวจแอตแลนตายื่นใบลาออกหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

พอล โฮเวิร์ด (Paul Howard) อัยการเขตของเทศมณฑลฟูลตันระบุว่าสำนักงานอัยการหวังว่าจะสามารถประกาศการตัดสินว่าจะแจ้งข้อหาใดบ้างภายในกลางสัปดาห์หน้า





บรูกส์เสียชีวิตหลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับแจ้งว่าเขานอนหลับอยู่บริเวณช่องเดินรถไดรฟ์ธรู (drive-thru) ของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง สำนักงานตำรวจระบุว่าเจ้าหน้าที่พยายามจับกุมตัวบรูกส์หลังตรวจพบว่าเขามีแอลกอฮอล์ในร่างกายไม่ผ่านเกณฑ์ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าบรูกส์ขัดขืนการจับกุม แย่งปืนช็อตไฟฟ้าจากตำรวจและวิ่งหนีไป


คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในลานจอดรถของร้านอาหาร แสดงให้เห็นว่าบรูกส์หมุนตัวกลับและหันกระบอกปืนช็อตไฟฟ้าไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะถูกยิง รถพยาบาลนำตัวบรูกส์ไปส่งที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่เขาเสียชีวิตหลังการผ่าตัด


เหตุการณ์ดังกล่าวจุดประกายการประท้วงที่แอตแลนตาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยร้านอาหารซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุถูกจุดไฟเผา


เมื่อวันจันทร์ (15 มิ.ย.) เคชา แลนซ์ บอตทอมส์ (Keisha Lance Bottoms) นายกเทศมนตรีของเมืองแอตแลนตาระบุว่าเธอจะลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารหลายข้อเพื่อปฏิรูปมาตรการการใช้กำลังของสำนักงานตำรวจแอตแลนตา




บอตทอมส์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เธอและเมืองแอตแลนตาจะดำเนินการตามความจำเป็นต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนในแอตแลนตาทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างมีเกียรติและด้วยความเคารพ

“เราเห็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นกับคุณบรูกส์ในคืนวันศุกร์ (12 มิ.ย.) ฉันรู้สึกเจ็บแค้นและเศร้าเสียใจชนิดที่ไม่สามารถบรรยายได้” บอตทอมส์กล่าว “การเผาตึกไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในแอตแลนตาได้ แต่มันจะลบสารสำคัญและบดบังเป้าหมายที่แท้จริงของการประท้วง”