ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มป้องกันอาชญากรรมหลังยกเลิกเคอร์ฟิว

2020-06-14 14:30:47

ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มป้องกันอาชญากรรมหลังยกเลิกเคอร์ฟิว

Advertisement

ผบ.ตร. สั่งปรับแผนโยกเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านความมั่นคง ลงพื้นที่ป้องปรามอาชญากรรมหลังยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีคำสั่ง ศบค.ที่ 5/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 4 และข้อกำหนดฉบับที่ 10 ลงวันที่ 12 มิ.ย.2563 ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2563 พร้อมทั้งมีมาตรการผ่อนคลายการใช้อาคารสถานที่ และการดำเนินกิจกรรมบางอย่าง และ ว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0007.35/1680 ลงวันที่ 12 มิ.ย.2563 โดยสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการและถือปฏิบัติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามประกาศและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลและกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งหน่วยร่วมปฏิบัติในทุกพื้นที่ เพื่อป้องปรามอาชญากรรม และการฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพ่รระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการ ซึ่งปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการต่างๆ เป็นอย่างดี




พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ผบ.ตร.ยังให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายในทุกพื้นที่ โดยให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นบำรุงขวัญและกำลังใจ พร้อมกำชับให้ลงพื้นที่เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผบ.ตร.ให้ปรับแผนการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเป็นจุดตรวจความมั่นคงและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ พร้อมให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและฝ่ายสืบสวนออกตรวจตราพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง และกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดที่ซ้ำเติมประชาชน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติม ว่า นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ให้เจ้าหน้าที่การกระทำที่กระทบต่อความสงบสุขของประชาชนและสังคม อาทิ การประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน, การกู้ยืมเงินโดยมีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, การหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์, การรวมกลุ่มแข่งรถในทาง, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, ขับรถในขณะเมาสุรา, ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, การหลบหนีเข้าเมือง, การกระทำความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ หรือความผิดอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด จัชุดเคลื่อนที่เร็ว และจัดชุดสืบสวนหาข่าว โดยหากพบว่ายังมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด คำสั่ง หรือประกาศที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เหมาะสมตามสมต่อไป