รายงานการติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 13มิ.ย.63 พบ 5 ราย เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน เข้าอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) วันที่ 12มิ.ย.63 เป็นนักศึกษาชาย 3 รายแรก อายุ 21,23และ 26ปี มีไข้ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารักษาตัว รพ.ใน จ.ฉะเชิงเทรา อีก 2 ราย อายุ 24และ 26 ปี อาการไอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารักษาใน รพ.ที่ จ.สมุทรปราการ
นอกจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย มีแนวโน้มที่ดี ยังพบว่า การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็มีการขยายตัว จองที่พักเพิ่มขึ้น ทั้งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เฉพาะเดือนพ.ค.63 การจองที่พักกว่า 60 %เป็นจุดหมายไกลจากตัวเมือง
ทางด้าน ศ.ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ การวิจัยและพัฒนา ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยผลการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คลี่คลาย และผ่อนคลายให้กิจการต่างๆ กลับมาดำเนินการได้แล้ว 3 ระยะ พบว่าการเดินทางของประชาชนทุกภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากปัญหาการจราจรที่ชัดเจนมาก จากการเดินทางทุกรูปแบบที่ลดต่ำสุดในช่วงต้นเดือน เม.ย.63 ค่อยเพิ่มสูงขึ้น จนขณะนี้ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลกลับมาเกือบเท่าภาวะปกติก่อนการระบาดแล้ว ปริมาณการใช้รถยนต์ถึงระดับ 86% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
และรณรงค์ให้ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว ใช้แอปพลิเคชัน ไทยชนะ ให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตปกติ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ของแอปพลิเคชันในการสอบสวนโรคย้อนหลังได้
เราจะเที่ยวกันด้วยความปลอดภัย โควิดจะไม่เป็นพิษกับเรา
ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นการไม่พบติดต่อกัน 19 วันแล้ว
นับเป็นอีกข่าวดี ที่มีอย่างต่อเนื่องรับกับการผ่อนคลายระยะที่4
สำหรับประเทศไทย การท่องเที่ยวเป็นทางแห่งรายได้หลัก การมีผู้ป่วยน้อยราย การจัดการป้องกันการติดเชื้อ ที่สะท้อนระบบการสาธารณสุขที่ดี เป็นบรรยากาศและทรัพยากรที่จะชักนำโอกาส ความสนใจอยากจะเดินทางเข้ามาเยือนของแขกต่างเมือง 
มีรายงานข่าวจาก แอร์บีเอ็นบี(Airbnb) บริการจัดการห้องพักระบบออนไลน์ที่เจ้าของบ้านพักอาคารสถานที่แบ่งที่ให้แขก นักท่องเที่ยว เข้าพักในราคาถูกเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แจ้งว่าต้นเดือน มิ.ย.63 ช่วงแรกของการผ่อนคลายระยะที่ 3 มียอดจองที่พักการท่องเที่ยวในไทย มากกว่าระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 13% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการเดินทางในประเทศไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยแอร์บีเอ็นบีคาดว่า นักเดินทางต้องการเยือนท้องถิ่นที่เข้าถึงง่าย มีความเป็นเอกลักษณ์และราคาไม่แพงเกินเอื้อม โดยพบว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยม ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ได้แก่ กรุงเทพ หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ และเพชรบุรี เป็นโดยจุดหมายที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองถึง 45 %
ส่วนการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะก็กลับมาให้บริการมากขึ้น ปริมาณการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทางถนนและทางราง อยู่ในระดับ 50% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี การเดินทางทางน้ำ 24% คาดว่า มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 ที่ผ่อนคลายการเดินทางระหว่างจังหวัดและเปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก โรงเรียนและสถาบันการศึกษา จะเปิดการเรียนการสอน การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนการเดินทางโดยเครื่องบิน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จะค่อยๆฟื้นตัว โดยขณะนี้ให้บริการประมาณ 16% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการผ่อนคลายให้กิจการ กิจกรรม กลับมาดำเนินการได้เกือบทั้งหมด ภาคการท่องเที่ยวยังเน้นส่งเสริมคนไทยเที่ยวในประเทศเป็นหลัก และเพื่อสนับสนุนให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้สำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน แห่ล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยว โดยเน้นบริหารจัดการให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยจัดระเบียบ แบ่งสัดส่วนการใช้พื้นที่ให้ชัดเจน เช่น ร้านค้า สถานประกอบการ พื้นที่พักผ่อน พื้นที่จัดกิจกรรม ที่จอดรถ โดยกำหนดมาตรการควบคุมจำนวนผู้เข้าท่องเที่ยวไม่ให้เกิดความแออัดและรักษาระยะห่า งยึดถือหลักหลีกเลี่ยง ติดต่อสัมผัสระหว่างกัน พร้อมกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งประชาสัมพันธ์การใช้เส้นทางเพื่อลดความแออัดของพื้นที่
กำหนดมาตรการป้องก้นการแพร่ระบาดของโรค การรักษาความสะอาดแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะจุดเสี่ยงการแพร่เชื้อ มีจุดล้างมือด้วยสบู่ เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งการกำจัดขยะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
