ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์สั่งล่าคนยิงช้างในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
จากที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบซากช้างป่าเพศผู้ไม่มีงา อายุ 7 ปี หนักราว 1,300 กก. สภาพเริ่มขึ้นอืดจมอยู่ในสระน้ำบ่อที่ 5 หุบมะกรูด ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 7 บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนนำช้างขึ้นมาใช้เครื่องสแกนหาเศษโลหะพบหัวกระสุนปืนลูกซอง 4 หัว ติดที่บริเวณใกล้แนวสันหลังด้านโคนหางจำนวน 3 รูลึกประมาณ 1-2 ซม. และที่บริเวณหลังโคนขาหน้าข้างขวาจำนวน 1 รู ลึก 20 ซม.ถึงปอด จึงผ่าเก็บไว้เป็นหลักฐานคาดว่าตายมาแล้ว 2 วัน เบื้องต้นสัตวแพทย์ทำการผ่าซากช้างพบมีน้ำท่วมปอด ก่อนตัดชิ้นเนื้อช้างส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัด จากนั้นนิมนต์พระสงฆ์สวดบังสุกุลและทำการฝังกลบซากช้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อหาตัวคนยิงช้าง
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.ยางชุม อ.กุยบุรี เปิดเผยว่าจากการตรวจดูกระสุนปืนลูกซองที่ผ่าจากซากช้างเป็นกระสุนปืนเบอร์12 ขนาด 9 ที่สามารถล้มช้างได้ ไม่ใช่ลูกปรายสำหรับใช้ยิงขู่ หลังตรวจบริเวณรอบสระไม่พบร่องรอยการต่อสู้กันของช้างป่าหรือร่องรอยบาดแผลถูกสัตว์อื่นทำร้าย คาดว่าสาเหตุการตายจากแผลที่ถูกยิงเกิดการอักเสบและเสียชีวิตจมน้ำขณะช้างลงไปกินน้ำ ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ามีชาวบ้านคนไหนครอบครอบอาวุธปืนลูกซองบ้าง คนไหนเคยถูกจับในคดีอาวุธปืนลูกซองย้อนหลังไป 3 ปีเพื่อเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานขอภาพกล้องวรจรปิดรอบๆอุทยานว่ามีใครเข้าออกในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาตามระยะเวลาที่สัตว์แพทย์ระบุว่าช้างถูกยิง ปัญหาสำคัญคือไม่รู้ว่าช้างจากมาทางไหน เนื่องจากอุทยานมีพื้นที่กว้างมากกินถึง 4 อำเภอ คือ ปราณบุรี กุยบุรี สามร้อยยอด และอำเภอเมืองประจวบฯ อีกทั้งช้างป่ามีจำนวนมากหลายร้อยตัว และตัวที่ถูกยิงก็ไม่มีลักษณะเด่นพิเศษให้เจ้าหน้าที่อุทยานจำได้ คงต้องใช้เวลาตรวจสอบแต่คาดว่าได้ตัวคนยิงช้างแน่
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้สั่งให้ ผกก.สภ.บ้านยางชุม ท้องที่ที่เกิดเหตุเร่งรัดจับกุมตัวผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงช้างซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าไปกินพืชไร่ที่ปลูกไว้ใกล้แนวเขตที่ดินโครงการตามพระราชดำริ หลังจากใช้วิธีเก่าไล่ยิงลูกโป้งเพื่อให้เสียงดังแต่ไม่ได้ผล ซึ่งช้างป่าที่ตายตัวก่อนในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด ก็มีอายุใกล้เคียงกับตัวล่าสุดและถูกยิงด้วยอาวุธปืนประเภทเดียวกัน สำหรับการป้องกันปัญหาช้างป่าตายผิดธรรมชาติโดยเฉพาะการยิงช้างเป็นเรื่องการใช้ความรุนแรงที่อาจจะมีผลกระทบหลายด้าน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการบูรณาการร่วมมือกันหลายฝ่ายโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพราะปัจจุบันมีช้างป่าออกหากินมากกว่า 300 ตัว ขณะที่อุทยานฯได้ประกาศปิดพื้นที่การท่องเที่ยวนานกว่า 2 เดือน
นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร ประธานมูลนิธิช้างป่าบ้านพ่อ กล่าวว่าการตายของช้างป่า 3 ตัวในรอบ 15 วัน เป็นสิ่งที่ผิดปกติ อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า หลังจากช้างออกมากัดกินพืชไร่ในพื้นที่รอบแนวเขตอุทยานหรือในพื้นที่ป่า อาจจะมีปัญหาความแห้งแล้ง แหล่งน้ำไม่เพียงพอ ที่สำคัญช้างป่าถูกยิงด้วยปืนลูกซองต่อเนื่อง 2 ตัว เจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากกระสุนปืนที่พบในซากช้างไม่มีเกลียวจากลำกล้องจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ายิงมาจากปืนกระบอกใด สำหรับช้างตัวล่าสุดที่พบคาดว่าก่อนหน้านั้นช้างถูกยิงได้รับบาดเจ็บนานนับเดือนจนแผลเริ่มอักเสบ และเดินซมซานมากินน้ำใกล้สระและตกลงไปก่อนหมดแรงจมน้ำตายดังกล่าว
