ถือเป็นหนุ่มสถาปัตย์ จุฬาฯ ในอดีตที่หลายๆคนในยุคนั้นให้การกล่าวขานเรื่องบุคลิกหน้าตาที่โดดเด่นจนมีเพื่อนๆในยุคสมัยที่เรียนจุฬาฯในช่วงของ"ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ออกมาเผยถึงความฮอตของอดีตพระเอกหนุ่มว่า สาวๆชอบแวะมาคณะสถาปัตย์เพราะ 2 สาเหตุ คือ ห้องน้ำสะอาด กับมาดูศรัณยู
ล่าสุดทางอินสตาแกรมชื่อ "NARONGCHAI_IOVEKING" ได้ออกมาเผยถึงเรื่องราวในอดีตของ"ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในกลุ่มที่เรียนคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ และวีรกรรมช่วงวัยรุ่นที่ไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสนุกสนานที่บ้านของตั้วแถววัดนาคปรกว่า
"ไปหาตั้วที่วัดนาคปรกมาจ้ะ..
วัดนี้ เป็นวัดประจำตระกูลของตั้วเลยก็ว่าได้ บ้านพ่อแม่ตั้วอยู่ติดกับวัดเลย.. พ่อแม่ตั้วมีบ้านว่างอยู่อีกหลังหนึ่ง...สมัยเรียนถาปัด ตั้วอยู่ที่บ้านนี้
ไม่ใช่สิ...ตั้วกับเพื่อนถาปัดจำนวนหนึ่ง อยู่บ้านนี้
ช่วงนั้นก็ไม่ใช่ปีหนึ่งนะ...ปีสามปีสี่ด้วยซ้ำ.. บ้านไม้สองชั้นเล็กๆ มีสองห้องคือ ห้องข้างบน กับห้องข้างล่าง เป็นบ้านที่ไม่ควรอยู่เกินสามคน...
พวกเราสามารถอยู่ด้วยกันหกเจ็ดคนได้...พร้อมกับโต๊ะเขียนแบบคนละตัว...
นอนตรงไหน...แล้วแต่
อยู่กันอย่างเขรอะ ทำโปรเจคส่งอาจารย์บ้าง คุยเรื่องเขียนบทละครบ้าง ร้องรำทำเพลงบ้าง....แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปนอน
แม่ตั้วจะหุงข้าวต้มมาให้กินบ่อยๆ เพราะกลัวลูกกับเพื่อนๆ เป็นโรคขาดสารอาหาร...เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมักจะเป็นอาหารหลัก ค่ำๆ ก็จิบแม่โขงโทนิคกัน...วันไหนมีตังค์เยอะหน่อยก็ลงขัน...จิบแสงโสม
ทำงานไป พร่ำเพ้อละเมอพก ดื่มด่ำเมรัยยามราตรี จนเกือบเช้า...ก็แยกย้ายไปสุมหัวนอน...แยกย้าย(ยังไงวะ ห้องเดียวนั่นแหละ...) ก่อนนอน...มีเพื่อนบางคนปวดเยี่ยว แล้วขี้เกียจลงมาเข้าส้วมข้างล่าง มันก็เยี่ยวตรงระเบียงบนบ้านดุจสายฝนอุบาทว์ ตกลงไปที่พื้นเบื้องล่างอันเป็นทางสัญจรเข้าออกของผู้คน รวมทั้งพระคุณเจ้า..ซึ่งกำลังจะออกมาบิณฑบาตในเวลาอันเกือบจะเดียวกันนั้น... ตั้วเห็นก็ตาเหลือก ตะโกนลั่น... “เฮ้ย ไอ้เชี่ย มึง ลงไปเยี่ยวข้างล่างสิโว้ย...นั่นมันลงไปทางเดิน เดี๋ยวพระก็จะออกไปบิณฑบาตแล้ว...”
“กูเมาว่ะตั้ว...กูลงกระไดไม่ไหว...” เราเขรอะกันอย่างไม่น่าเชื่อ...
เพื่อนคนหนึ่ง ตื่นก่อน อาบน้ำเสร็จแล้วหยิบกางเกงในฉันที่ตากอยู่ไปใส่เฉยเลย...
พอฉันลืมตาขึ้นมาเห็น ก็ร้องเฮ้ย.... มันด่ากลับหน้าตาเฉย..
“เฮ้ย...อะไรวะ ของแค่นี้หวงไปได้...” ล้อมวงกินข้าวต้มที่แม่ตั้วต้มมาให้กิน...มีไอ้เพื่อนตัวร้ายเลวทรามต่ำช้าคนนึง มันคะนอง...มันดึงขนในที่ลับ...เอาใส่ชามข้าวต้มเพื่อนทุกคน!!!! อ้วกกกก... “...ไอ้.....มึงทำอะไรของมึง...”
“...หมี่กรอบไง...หมี่กรอบ...” กว่าจะรอกันใช้ห้องน้ำ อาบน้ำมั่ง ไม่อาบมั่ง...ก็แล้วแต่...
ก็จะพากันเดินงัวเงียเป็นขบวนออกไปปากซอย... เป็นอู่ต้นสายรถเมล์สาย 4 ตลาดพลู-คลองเตย
ซึ่งโชคดีที่เป็นสายที่ผ่านจุฬาพอดี..
เราเป็นนิสิต..ก็ต้องไปเรียนสิ
เราจะไม่พูดคุยกันทั้งสิ้น ต่างกับกลางคืนโดยสิ้นเชิง...
ต่างคนแยกย้ายไปนั่งริมหน้าต่าง...ไม่นั่งด้วยกัน
ก่อนรถจะออกจากอู่...เราก็หลับกันโดยพร้อมเพรียงริมหน้าต่าง
ไม่ต้องหวาดกลัวต้องลุกให้เด็กสตรีคนชราอะไรใดๆทั้งสิ้น
เพราะเก้าอี้รถเมล์สมัยนั้นเป็นแบบนั่งคู่หมด...ปลอดภัย"