เศรษฐกิจสหราชอาณาจักร หดตัวอย่างแรง 20.4 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหดตัวรายเดือนที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สหราชอาณาจักรอยู่กับมาตรการล็อคดาวน์ในเดือนเมษายนเต็มเดือนเป็นเดือนแรก สำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือโอเอ็นเอส แถลงว่า นับเป็นการดิ่งเหวครั้งประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน
เศรษฐกิจหดตัวครั้งนี้ เลวร้ายกว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวระหว่างปี 2551 กับ 2552 รวมกันถึง 3 เท่า แต่บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า เดือนเมษายนดูเหมือนจะเป็นเดือนที่หนักหน่วงที่สุด ขณะที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในเดือนพฤษภาคม
โอเอ็นเอส เผยแพร่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนจากกุมภาพันธ์ถึงเมษายนด้วย ซึ่งพบว่า ชะลอตัว 10.4 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างเกิดวิกฤตการเงินโลก จากช่วงสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 จนถึงระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2552 รวม 13 เดือน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี หดตัว 6.9 เปอร์เซ็นต์ การหดตัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเดือนเมษายน จึงมากกว่าช่วงเวลาดังกล่าวถึง 3 เท่า
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร หดตัวไปก่อนเดือนเมษายนแล้ว โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 หดตัว 2 เปอร์เซ็นต์ เพียงไม่กี่วันที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจก็ทรุดหนักลง
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า การดิ่งลงที่ใหญ่กว่าในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดำดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยรุนแรง