ศบค.ผ่อนคลายระยะ 4 ยกเลิกเคอร์ฟิวเริ่ม 15 มิ.ย.ร้านอาหารขายเหล้าได้ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ อาบ อบ นวด ยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)แถลงว่าในวันนี้มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค.มีมติยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานทั่วราชอาณาจักร ระหว่างเวลา 23. 00 น.-03.00 น. เริ่มวันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป แต่ยังคงห้ามการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก น้ำ และอากาศ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา 1.การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนประเภทนานาชาติ หรือสถาบันการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ และโรงเรียนนอกระบบ ประเภทกวดวิชา 2.การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระบบที่มีนักเรียนทั้งโรงเรียนไม่เกิน 120 คนสามารถเปิดได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่่ 15 มิ.ย.2563 3.การใช้อาคารสถานที่ของหน่วยราชการ และหน่วยงานในกำกับของรัฐเพื่อการอบรม สัมมนาในหลักสูตรฝึกอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้น
โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ผ่อนคลายให้จัดประชุม อบรม สัมมนา คิดเกณฑ์ 4 ตร.ม./คน จัดเลี้ยง งานอีเว้นท์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา ระยะนั่ง-ยื่นห่าง 1 เมตร งานดนตรี คอนเสิร์ต ลดความหนาแน่น ไร้ระเบียบ เกณฑ์ 1 ตร.ม./คน นอกจากนี้ยังอนุญาตการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ยกเว้นในส่วนของสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ ยังไม่อนุญาตเปิดดำเนินการ
นอกจากนี้ยังอนุญาตกิจกรรมการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ นั้น การอบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำแบบรวมในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ยกเว้นในส่วนของสถานประกอบกิจการ อาบน้ำ อาบอบนวด ยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ด้านการออกกำลังกาย สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุกสามารถเปิดให้บริการได้ ตามมาตรการ เปิดออกกำลังกายแบบกลุ่มในที่สาธารณะได้ แต่ต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน ขณะที่สนามกีฬา หรือที่ออกกำลังกายเองก็สามารถมีการแข่งขันได้ เช่นกัน แต่ต้องไม่มีผู้ชม
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการพูดถึง Travel Bubble เปิดการท่องเที่ยวอย่างจำกัด โดยเลือกประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ดี ประเทศที่เดินทางหากันมีการตรวจเชื้ออย่างเข้มงวด มีการซื้อประกันสุขภาพ มีระบบการติดตาม เพื่อป้องกันหากเกิดการติดเชื้อ ทั้งยังมีข้อเสนอให้อยู่ได้ในบางพื้นที่ เช่น เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการดูแลอย่างดี โดยกลุ่มเป้าหมายคือ นักธุรกิจ และกลุ่มที่มารับการรักษา บริการทางการแพทย์ โดยเป้าหมายประเทศคือ จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศตะวันออกกลางบางประเทศ โดยที่ประชุม ศบค.เห็นชอบในหลักการ แต่ต้องมีมาตรการที่เข้มข้น ที่ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ได้รายได้จากการท่องเที่ยว แต่ต้องมีการคุมเข้มในการตรวจโรคด้วย