ตร.เร่งล่าขาใหญ่รุมยำชาวบ้าน-ต่อยนักข่าวเย็บ 18 เข็ม

2020-06-12 11:35:59

ตร.เร่งล่าขาใหญ่รุมยำชาวบ้าน-ต่อยนักข่าวเย็บ 18 เข็ม

Advertisement

ตร. เร่งล่า "ขาใหญ่" สุดกร่าง ยกพวกรุมทำร้ายผัว-เมียบาดเจ็บ ก่อนต่อยนักข่าวเย็บ 18 เข็ม

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภาพจากวงจรปิดที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งภายในซอยเทพารักษ์ 102 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน กำลังรุมทำร้ายชาวบ้านที่นั่งสนทนากับผู้สื่อข่าวพิเศษของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งอยู่ที่ท้ายรถยนต์กระบะที่จอดอยู่หน้าหอพัก จนชาวบ้านรายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวจะหันมาทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวพิเศษที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยการชกต่อยที่ใบหน้าและตีเข่า จนปากของผู้สื่อข่าวฉีกเลือดกบปาก ขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เหลือคอยยืนคุมเชิงไม่ให้ใครเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมข่มขู่ว่ามีเรื่องกับกูมึงอยู่ลำบาก ก่อนที่จะแยกย้ายกันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ผู้สื่อข่าวนิว 18 รายงานเพิ่มเติมว่า หลังเหตุการณ์สงบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เป็นชาวบ้านซึ่งเป็นคู่สามีภรรยา 2 รายและผู้สื่อข่าวอีก 1 ราย ขณะที่พลเมืองดีช่วยนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 และโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ หลังแพทย์ให้การรักษา ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ นิพนธ์ คงพูล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วย นายบัณฑิต ชวาลา อายุ 37 ปี ผู้สื่อข่าวพิเศษ ช่องเวิร์คพ้อยท์ 23 ประจำ จ.สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกบริเวณริมฝีปาก แพทย์ต้องเย็บให้จำนวน 18 เข็ม ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายวรากร ใจดี อายุ 40 ปี มีบาดแผลแตกที่บริเวณหางคิ้วแพทย์เย็บให้จำนวน 8 เข็ม และ น.ส.นพักชล ศรีสุวรรณ์ อายุ 38 ปี ภรรยาของนายวรากร มีรอยฟกช้ำตามตัวเนื่องจากเข้าไปปกป้องสามี




ด้าน นายบัณฑิต ผู้สื่อข่าวพิเศษช่องเวิร์คพ้อยท์ 23 เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ท้ายรถยนต์กระบะที่จอดอยู่หน้าหอพัก ระหว่างนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คนเดินเข้ามาถามชื่อนายวรากร ผู้บาดเจ็บ แต่นายวรากร ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดจะเปิดฉากรุมทำร้ายนายวรากร จนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้น น.ส.นพักชล ภรรยาของนายวรากร ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เอาตัวเข้าไปปกป้องสามีจนทำให้ถูกลูกหลง ระหว่างนั้นตนเห็นท่าไม่ดีจึงเดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มดังกล่าวเพื่อที่จะมาโทรแจ้งตำรวจให้เข้าระงับเหตุ แต่ระหว่างนั้นชายฉกรรจ์คนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ เดินมาหาแล้วพูดว่าเปรี้ยวนักเหรอที่โทรแจ้งตำรวจ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะกระโดดชกเข้าที่ใบหน้าของตนเต็มแรง รวมทั้งยังตีเข่าและกระหน่ำต่อยเข้าที่ใบหน้าของตนอีกหลายครั้ง โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เหลือคอยยืนคุมเชิงไม่ให้ใครเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันหลบหนี

ขณะที่ นายวรากร และ น.ส.นพักชล บอกว่า เมื่อปีที่แล้วตนเคยมีปากเสียงกับชายคนหนึ่งซึ่งทำตัวเป็นขาใหญ่ประจำซอยดังกล่าว และเคยถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกขึ้นไปล้อมห้องบนหอพักมาแล้ว อีกครั้งหนึ่งเคยถูกกรีดรถจนเสียหายแต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจเนื่องจากไม่อยากมีปัญหา เนื่องจากกลัวว่าตนเองและภรรยาจะไม่ปลอดภัย เวลาผ่านไปนานเกือบ 1 ปีจนกระทั่งวันนี้ จู่ๆ กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเข้ามาถามชื่อตน ก่อนที่จะลงมือรุมทำร้าย เชื่อว่าต้องมีคนชี้เป้าให้กลุ่มชายฉกรรจ์มาทำร้ายตน ส่วนนายบัณฑิต เป็นเพื่อนตน และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพียงแค่โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ และแจ้งกู้ชีพให้มานำตนและแฟนไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเท่านั้น



เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่ผู้ก่อเหตุลงมือทำร้ายร่างกายเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยภาพของกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นใบหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ทำให้พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป