ตอนนี้เทรนด์คุณพ่อขี้เห่อกำลังมาแรง เพราะไม่ว่าจะเลื่อนโซเชียลไปที่หน้าคุณพ่อคนไหนก็ลงภาพลูกๆกันรัวๆไม่แพ้เหล่าคุณแม่เลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือว่าที่คุณพ่อ"ต๊ะ บอยสเก๊าท์" หรือ "วินรวีร์ ใหญ่เสมอ" ที่ขึ้นชื่อว่าหลงรักลูกตัวเองตั้งแต่รู้ว่าภรรยาคนสวย"บุ๋ม มินตยา" ตั้งท้อง ซึ่งล่าสุดหนุ่มต๊ะ ที่ได้มาเยือนรายการต้มยำอมรินทร์ ได้เผยอีกว่าลูกคนนี้ทำให้ชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว
คือ จริงๆแล้วมันคล้ายๆเราตื่นขึ้นมาทุกวันมีความหวังว่ามีสิ่งดีๆที่เราต้องมอบให้กับเขา เราก็เลยต้องเตรียมทุกอย่าง ปรับเปลี่ยนนิสัย บุคลิกภาพของตัวเองด้วยเพื่อรองรับลูก ในวันข้างหน้าด้วยซึ่งดี เค้าถึงบอกว่าการมีลูกคือดี ดีจนคาดไม่ถึงเลยว่าเราจะดีได้ถึงขนาดนี้ อย่างเช่นเรื่องการขับรถเลย เมื่อก่อนจะอารมณ์ร้อนมาก แต่เดี๋ยวนี้เราจะปรับ ท่อง พุทธโธ พุทธโธ ตลอดเลย คือพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกให้ได้มากที่สุด
ภรรยาบอกว่าตั้งแต่ที่คบกันมาช่วงนี้คือช่วงที่ภรรยาบอกว่าสามีดูแลดีที่สุด?
คือตอนนี้ชี้นิ้วสั่งได้ทุกอย่าง เพราะก่อนหน้านี้ชี้นิ้วสั่งไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้นำครอบครัว ก็ปกติไม่ได้ถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้เรารู้เราทำเพื่ออะไรครับ แล้วช่วงนี้ เป็นช่วง go ของเขา ชี้นิ้วสั่งได้ตลอดเวลา ผมทำตั้งแต่ตื่นเช้า ทำอาหารให้เขาทานยันจนเก็บเลย กลัวว่าจะต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปเลย
ถามว่าภรรยาอายุครรภ์เท่าไหร่แล้ว ตอนนี้ 11 อาทิตย์กับ 15 วันแล้วครับ นับทุกวันครับ เป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะทุกวันจันทร์ ของเดือนเราจะไปหาคุณหมอกันรู้จากการคำนวณกับคอมพิวเตอร์ด้วยครับ ครั้งแรกที่เห็นลูกเลยคือเป็นเหมือนจุดปลายปากกา รู้สึกหวง กังวลไปทุกอย่าง ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเรารู้สึกยังไง เราก็ไปถามคนที่มีประสบการณ์ เขาก็บอกว่า คือ สัญชาตญาณของความเป็นพ่อ เรากังวลเรื่องเค้าทุกอย่างจนบอกไม่ได้เลย จนผ่านไปเรื่อยๆจนล่าสุด ได้เห็นเป็นตัว สมอง ขา เราก็รู้สึกดีใจ และรอที่จะได้เจอหน้ากัน ได้ยินเสียงหัวใจของลูกครั้งแรก คือ วิเศษจริงๆ ชนิดที่ร้องไห้ซึ่งคนเราส่วนมากจะร้องไห้กับความเป็นทุกข์ซะมากกว่า แต่ผมร้องไห้เพราะการได้เห็นลูกเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆเลยครับ
ขอชี้แจงประเด็นข่าวในอดีตที่คาใจใครหลายคนให้หายคล้องใจ?
จริงๆแล้วคดีมันแยกออกเป็นสองคดี คือคดีปืนกับคดียา คือ คดีปืน พิพากษามีความผิดรอลงอาญา 2 ปี ส่วนคดียา ผมชนะคดีไม่มีความผิด อีกเรื่องหนึ่งที่ผมแคร์ แล้วก็ชอบจำคือ เรื่องที่ผมทำร้ายผู้หญิง ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องที่เกิดคือ ข่าวเขียนว่าเมายา ตีผู้หญิง จริงๆแล้วทั้งสองเรื่องนี้ไม่มึเกิดขึ้น เพราะเขาเอาผู้หญิงไปตรวจร่างกายแล้วไม่มีการทำร้าย หรือร่างกายมีส่วนใดๆที่ถูกทำร้ายเลย แต่ผมก็ยังถูกตราหน้าว่า ทำร้ายผู้หญิง ผมบอกเลยว่าผมนักเลงพอไม่ทำร้ายผู้หญิงแน่นอน แต่เราก็ต้องด่าตัวเราเองครับที่ตอนนั้นเราเกเรทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจนเป็นข่าว คนเรายอมรับความผิดของคนอื่นได้ง่ายอยู่แล้วครับ คือ จริงๆแล้ว อันนี้ เราก็พยายามพิสูจน์ตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ส่วนคนที่คิดกับเราไม่ดีหรือมีอคติกับเรา เราก็ไม่สามารถไปบังคับให้เค้าเชื่อได้ เราก็เปลี่ยนแปลงที่ตัวเองเราก่อน
