การติดเชื้อโควิด-19 ของไทยในช่วงนี้ แทบไม่มีลุ้นตัวเลขความผิดปกติ อย่างวันนี้ (9มิ.ย.63) พบใหม่เพียง 2 ราย จากผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ อยู่ในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) รายแรก นักศึกษาชายไทยอายุ 22 ปี กลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย วันที่ 25 พ.ค.63 มีไข้ แต่ตรวจไม่พบเชื้อ จนถึงรอบตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 7 มิ.ย.63 ซึ่งครบกำหนด 14 วันพอดี ส่งเข้ารักษาที่ รพ.ยะรัง จ.ปัตตานี รายที่สอง หญิงพนักงานบริษัท อายุ 31 ปี กลับจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึงไทยวันที่ 3 มิ.ย.63 ตรวจวันเดียวกัน ผลเป็นบวกแต่ไม่ชัดเจน ส่งเข้า รพ.ใน กทม. ตรวจซ้ำวันที่ 8 มิ.ย.63 ยืนยันเป็นเชื้อโควิด-19
จำนวนและลักษณะการพบเชื้อดูไม่น่าตื่นเต้น แต่ความที่เป็นคนหนุ่มสาว นักศึกษา วัยทำงาน ร่างกายแข็งแรง บางรายยืนยันพบเชื้อวันที่ 14 เป็นสิ่งที่เตือนว่าอย่าวางใจกับกลุ่มเสี่ยงที่เห็นยังปกติดี เพราะมีโอกาสแพร่เชื้อ
วันเดียวกัน ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้าน ยอดผู้ที่รักษาหายรวม 2,973 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.26 ของผู้ป่วยทั้งหมด ที่ยังคงอยู่ในรพ.90 ราย หรือร้อยละ 2.88 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จำนวนคงที่ 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,121 ราย ทั้งนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 15 แล้ว
คุณหมออ้างคำเตือนของ ศบค.ที่เน้นการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ และการเว้นระยะห่าง จะทำให้ประเทศของเราปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด 19
การท่องเที่ยวเป็นแหล่งโอกาสสร้างรายได้ของชุมชน ท้องถิ่นและส่วนรวมทั้งประเทศ แม้ข่าวการแจกบัตรกำนัล หรือข่าวการแจกเงินหัวละ 3,000 ให้ไปเที่ยว จะไม่เป็นที่ยืนยัน แต่ก่อนหน้านี้พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็เตรียมแพ็กเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.63 โดยจะสนับสนุนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)ไปเที่ยวตอบแทนหลังผ่านงานหนักมา
รอดจากโควิด ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
พ.ญ.พรรณประภา ยงค์ประกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ย้ำว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ โดยหน่วยงานทุกภาคส่วน ยังช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ผู้ถูกกักตัวในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ เมื่อครบกำหนด 14 วัน ผลตรวจเป็นลบ และอนุญาตให้กลับ เมื่อถึงบ้านต้องเว้นระยะห่างจากคนในครอบครัว ผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีโรคประจำตัว สวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโลก ข่าวแจ้งว่า ผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวน 7,193,988 ราย เพิ่มขึ้นอีก 107,512 ราย โดยยอดรวมการเสียชีวิตถึง 408,628 ราย แต่ก็มีข่าวดี จากประเทศนิวซีแลนด์ จะยุติมาตรการเว้นระยะทางสังคม หลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยรายสุดท้ายรักษาหายแล้ว ทั้งไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 วันมาแล้ว โดยมีสถิติผู้ป่วยที่ยืนยันทั้งสิ้น 1,504 ราย เสียชีวิต 22 ราย ทั้งนี้นิวซีแลนด์ ใช้มาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดในโลก ให้ทุกคนอยู่บ้าน และอนุญาตให้มีบริการเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
การไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 15 วัน บรรยากาศโดยรวมก็ผ่อนคลาย และได้จังหวะพอดีกับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนมาถึง เพราะเวลาของเงินเยียวยามาถึงเดือนสุดท้าย และต้องเร่งสร้างรายได้รวมช่วงครึ่งหลังของปี ที่มีแต่การคาดการณ์ตัวเลข จีดีพี ว่าจะติดลบมากขึ้นเรื่อย ๆ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณการปฏิบัติงานป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19จนไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 14วันและจังหวัดต่าง ๆ เปิดให้เดินทางได้ เพียงแต่ขอให้ยึดถือมาตรการทางสาธารณสุขเสมอ ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว ก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบให้สอดคล้องกับมาตรการทางสาธารณสุข เช่นมาจากประเทศที่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด เพราะไทยมีการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีศักยภาพ สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมารักษาพยาบาล ฟื้นฟูสุขภาพ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบเพื่อไม่ทับซ้อนกับการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19
และยังได้ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน รณรงค์สวมใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน โดยทำความตกลงกับ 76 จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างรายได้แก่ประชาชนผู้ประกอบอาชีพทอผ้า ที่มีมูลค่าปีละกว่า 1 แสนล้านบาท เป็นการช่วยกระจายรายได้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยให้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อาทิ Shopee Facebook Live และ OTOP Today
หนทางสร้างรายได้ให้ประชาชนคืองานใหญ่ที่รออยู่ ต้องชะงัดเหมือนจัดการกับไวรัส ....ให้ไว !!