“สิระ”ประกาศตามหา “อุตตม-สนธิรัตน์” กลางที่ประชุม พปชร.

2020-06-09 16:55:16

“สิระ”ประกาศตามหา “อุตตม-สนธิรัตน์” กลางที่ประชุม พปชร.

Advertisement

“สิระ”ประกาศตามหา “อุตตม-สนธิรัตน์” กลางที่ประชุม พปชร. ชี้ไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมพรรค

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย่านรัชดา มีการประชุม ส.ส.พรรค โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานในที่ประชุมพร้อมด้วยแกนนำ 3 คน นั่งร่วมด้วย ได้แก่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรค โดยมีส.ส.เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก แม้กระทั่งนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมประชุมด้วย ท่ามกลางกระแสข่าว 5 ส.ส.กทม. ได้แยกตัวไปเป็นอิสระทำกิจกรรมกับ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาษี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ในการประชุมดังกล่าว นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา และน.ส.วทันยา ไม่ได้มาร่วมประชุม

ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสิริ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ได้ขอหารือถึงกรณี นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ไม่เข้าร่วมประชุม ส.ส. 3-4 ครั้ง ว่า เป็นการไม่ให้เกียรติพรรคและสมควรดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่ ซึ่งอยากจะถามว่าท่านจะลาออกเองหรือให้ตนขับไล่หรือไม่ เพราะตนไม่สามารถนำปัญหาของประชาชนมาหารือต่อหัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้จึงอยากฝากเรียนถึงท่านประธานในที่ประชุม หากเจอกับนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ให้ตามมาประชุมพรรคและสอบถามว่าทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมพรรค หรือจะให้ตนประกาศตามหาคนหาย และหากท่านไม่ให้ความร่วมมือก็ควรออกไปเลยดีกว่า

นายไพบูลย์ ชี้แจงว่า ขอเรียนว่านายอุตตมและนายสนธิรัตน์พ้นตำแหน่งไปแล้ว โดยทำหน้าที่รักษาการณ์หัวหน้าและเลขาธิการพรรคเท่านั้น ตนเห็นใจ ส.ส. ที่ไม่สามารถได้เจอกับทั้ง 2 ท่านได้ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค จึงไม่สามารถนำเรื่องไปแจ้งกับทั้ง 2 ท่านได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาของพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและคืนอำนาจให้กับสมาชิกพรรคเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าและเลขาธิการพรรคชุดใหม่เพื่อความเข้มแข็งของพรรคและเป็นเสาหลักของประเทศ และเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการบริหารประเทศต่อไป