ญาติเหยื่อค้างผ่อนมือถึอ เล็งช่วยถวายฎีกาขอที่ดินคืน

2020-06-09 16:40:50

ญาติเหยื่อค้างผ่อนมือถึอ เล็งช่วยถวายฎีกาขอที่ดินคืน

Advertisement

ญาติๆ เหยื่อซื้อมือถือเห็นใจ บอกอาจต้องหาที่พึ่งทางสุดท้าย ทำหนังสือถวายฎีกาขอที่ดิน 4 ไร่คืน

วันที่ 9 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแผ่นประกาศที่ติดไว้ที่บ้าน ระบุยอดหนี้ตามหมายบังคับคดี 27,486 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมและทนายความ 4,249 บาท ดอกเบี้ย 6,590.99 บาท รวมหนี้ 38,325.99 บาท (จ่ายให้บริษัทแห่งหนึ่ง) สำหรับแปลงพื้นที่ 4 ไร่ดังกล่าว บริเวณหน้าติดถนน หลังติดแม่น้ำน่าน ซึ่งปลูกบ้านเรือนจำนวน 3 หลัง ซึ่ง 1 ใน 3 บ้านพบว่า เป็นตามโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ ในโอกาสทรงเจริญพระชมมายุ 5 รอบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 สวท.พิษณุโลก สัญจร 11 ก.พ. 2559 ร่วมกับ ทหารกองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) กองทัพภาคที่ 3 และ อบต.ศรีภิรมย์ และบริษัทเอกชนต่างๆ สร้างให้คนผู้พิการทางสายตา ซึ่งปัจจุบันเป็น พี่สะใภ้ของ นางสุรีพร อาศัยอยู่กับสามีและบุตร 3 คน อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 1 ต.ศรีภิรมย์ อ.เมือง พิษณุโลก เบื้องต้นพบว่าญาติๆ ได้มานั่งปรึกษากันว่า ถ้าไม่สามารถวิงวอนหรือจะเจรจาขอซื้อที่ดินจำนวน 4 ไร่ คืนจากผู้ชนะการประมูลไปแล้วนั้น จะทำอย่างไรต่อ เนื่องจากทางกฎหมายอาจแทบเป็นไปไม่ได้ อาจต้องหาที่พึ่งทางสุดท้ายก็จะทำหนังสือถวายฎีกา

ขณะที่ 2 ครอบครัว ก็ยังคิดหาทางออกไม่ได้ และยังมีลูกๆ อีกหลายคนที่ยังไม่ทราบชะตากรรม หลังจากกรมบังคับคดีนำหนังสือและบัญชีจังหวัดพิษณุโลก ที่เหลือจากการใช้หนี้ค่าโทรศัพท์มือถือ ที่นางสุรีพร บุตรสาว อายุ 38 ปี ที่มีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินจำนวน 4 ไร่ ที่ซื้อมือถือด้วยระบบเงินผ่อนจากร้านมือถือรายหนึ่ง แต่ผ่อนไปได้อยู่เพียง 2 งวด จากนั้นไม่สามารถผ่อนส่งตามสัญญาได้ กระทั่งสู่กระบวนการศาล และถูกกรมบังคับคดี สืบทรัพย์และยึดทรัพย์ ขายทอดตลาดไปจำนวน 530,000 บาท เปลี่ยนมือไปสู่นายทุน และทราบว่านายทุนจะเก็บค่าเช่ารายเดือนทั้งหมด 3,000 บาท ในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากกรรมสิทธิ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว




อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีสำรวจที่ดินไปหมดแล้ว พร้อมกับนำบัญชีเงินที่เหลือจากผู้ที่ชนะการประมูลทรัพย์ จำนวนเงิน 530,000 บาท และหักส่วนที่ค้างชำระค่าโทรศัพท์มือถือมาแจ้งให้ที่ถูกยึดทรัพย์ไป แต่ทั้ง 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันได้รับทราบและให้เซ็นชื่อรับเงินที่เหลือ แต่ยังไม่มีผู้ใดกล้าเซ็นชื่อรับเงิน หวั่นเกรงว่าหากเซ็นต์รับเงินส่วนที่เหลือแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป

สำหรับยอดเงิน ที่กรมบังคับคดีระบุ คือ พ่อของนางสุรีพร และพี่ชายของนางสุรีพร รับยอดเงินคืน 176,000 บาทเศษ ส่วนยอดเงินของนางสุรีพรฯ เหลือเพียง 120,000 บาทเศษ เนื่องจากหักค่าค้างชำระโทรศัพท์มือ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีได้ทำบัญชีเรียบร้อยพร้อมติดประกาศไว้แล้ว