นศ.ไทยเจอติดโควิดเพิ่ม17 ยันพ้นกักตัว-ออก รพ.ปลอดเชื้อแน่

2020-06-04 22:30:00

นศ.ไทยเจอติดโควิดเพิ่ม17   ยันพ้นกักตัว-ออก รพ.ปลอดเชื้อแน่

Advertisement



จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันที่ 4 มิ.ย.63 เพิ่มพรวดขึ้น 17 ราย เป็นนักศึกษาไทยที่กลับจากต่างประเทศอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine)


ตกใจ ! ขนาดนี้ได้ไง วันเดียวกันนี้ เดือนที่แล้ว 4 พ.ค.63 ก็คล้ายกัน จู่ๆ ตัวเลขรายใหม่ที่ต่ำสิบอยู่ 4-5 วัน ก็พุ่งปรี๊ดไป 18 ราย จากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองในศูนย์กักตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา


ผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ ทำให้ยอดสะสมเป็น 3,101 ราย ที่หายป่วยแล้ว 2,968 ราย ไม่มีผู้หายป่วยเพิ่มและไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม






จำนวน 17 รายวันนี้ แยกเป็น 3 กลุ่ม 1.จากประเทศคูเวต เพศชาย 12 ราย อายุ 31-53 หญิง 1 ราย อายุ 44 กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 24 (9 ราย) และ 26 (4 ราย) พ.ค.63 เข้าพักในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐที่ กทม. และ จ.สมุทรปราการ ทุกราย พบเชื้อในการตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. โดย 1 ราย มีอาการไอ หายใจขัด ที่เหลือไม่มีอาการ




กลุ่ม 2 จากประเทศกาตาร์ 2 ราย เป็นชายอายุ 28 หญิงอายุ 29 กลับถึงไทย เมื่อ 22 พ.ค.63 เข้าพักพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ ที่ จ. สมุทรปราการ ผู้ป่วยหญิง เริ่มมีอาการไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ ผู้ป่วยชาย ไม่มีอาการ ทั้ง 2 รายพบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2มิ.ย.63


กลุ่ม 3จากประเทศซาอุดิอาระเบีย 2 ราย เป็นชาย อายุ 28-29กลับถึงไทย ผ่านด่านปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 21 และ 25 พ.ค.63 เข้าพักในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ ที่ จ. สงขลา ทั้ง 2 รายพบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 เมื่อ 1 มิ.ย.63 ไม่มีอาการ


ชาวไทยที่เดินทางกลับประเทศจากต่างประเทศและพบการติดเชื้อที่ผ่านมา พบว่า จากประเทศคูเวต กลับมา 174 ราย ยืนยันการติดเชื้อ 30 ราย วันนี้เพิ่มอีก 13 จากซาอุดิอาระเบียกลับมา 79 ราย ยืนยันการติดเชื้อ 12 วันนี้เพิ่มอีก 2 ราย จากกาตาร์กลับมา 216 ราย ยืนยันติดเชื้อ 9 ราย วันนี้เพิ่ม 2 ราย


การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ แทบไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศ จึงเป็นที่วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ นานา แต่ เมื่อเอาสถิติมาดูพบว่าตั้งแต่เดือน ก.พ.-4มิ.ย.64 พบผู้ป่วยในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ 164 ราย ชาย 142 หญิง 22 อายุต่ำสุด 15 สูงสุด 77 ปี สัญชาติไทย 98.78% อเมริกา 0.61% อังกฤษ 0.61%


จากจำนวนที่กลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรค 31,126 คน พบติดเชื้อ 164 คิดเป็น 0.53 %





นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำชับว่า เป็นสิทธิของคนไทยที่จะเข้าประเทศ ทุกพื้นที่ของเมืองไทยต้องต้อนรับคนไทย เมื่อเข้ามา ต้องรีบตรวจ แล้วเข้า State Quarantine ในพื้นที่


แต่ก็ยังมีประเด็นสงสัยว่า เมื่อพ้นการกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐแล้ว พอกลับภูมิลำเนา มีบางจังหวัดกำหนดให้เข้ากักตัวในพื้นที่ที่จัดให้ กรณีนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าไม่จำเป็น เนื่องจากการกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐเป็นเวลา 14วัน ได้รับการตรวจดูแลโดยแพทย์ มีใบรับรองการกลับจากต่างประทศและอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรคเรียบร้อยแล้ว หากภูมิลำเนาหรือจังหวัดให้กักตัวก็แสดงใบรับรองและขอไม่เข้ารับการกักตัวของจังหวัด หากมีปัญหาให้โทรศัพท์แจ้งที่เบอร์ 1111 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน



ทางด้าน นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค อธิบายให้ความมั่นใจว่า ผู้กลับจากต่างประเทศที่ผ่านการกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐจะปลอดภัย เพราะทุกคน ก่อนเดินทางจากต่างประเทศ ต้องขึ้นทะเบียนกับสถานกงสุล ถูกกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยจะถูกคัดกรอง ถ้ามีไข้จะแยกไปตรวจ แบบผู้ป่วย หากไม่มีไข้ เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะถูกนำเข้าพื้นที่ควบคมโรคแห่งรัฐอีก 14 วัน ระหว่าง 14 วัน จะตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง หากไม่มีการพบเชื้อ และอยู่ครบกำหนด ก็กลับบ้านได้




แต่ถ้าตรวจพบเชื้อ จะรับเข้ารักษาแบบผู้ป่วย อีก 14 วันในโรงพยาบาล ดังนั้นระหว่าง 14 วัน ถ้าไม่มีอาการและไม่มีเชื้อ แปลว่าเป็นคนที่ไม่มีเชื้อในร่างกายแน่นอน ส่วนของผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล ยืนยันได้ว่าจะไม่ไปแพร่โรคที่ชุมชน


อย่างไรก็ตาม โควิด-19 เป็นโรคที่การวิจัยทั่วโลกผลตรงกันว่า สัดส่วนถึง 80% ไม่มีอาการ หรืออาการไม่รุนแรง อีก 15% มีอาการน้อยถึงปานกลาง และ 5% อยู่ในภาวะวิกฤติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คนส่วนใหญ่ที่อาการน้อยร่างกายอาจกำจัดได้ อาจหายโดยธรรมชาติ มีอาการน้อยกินยาลดไข้ก็ช่วยได้ แต่ต้องรับผิดชอบคนอื่นด้วยการมีระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่เชื้อที่ผู้รับอาจไม่แข็งแรงและมีอาการ

ความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นสำคัญตรงนี้



โดยเฉพาะกับการผ่อนปรนระยะที่สี่ ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.63 ซึ่งวันนี้ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า กิจการและกิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะต่อไป ได้แก่ 1. โรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพื่อการจัดการเรียนการสอน การฝึกอบรม 2. สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงวัย แบบรายวัน 3. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 4. ห้องประชุม ที่มีการรวมกลุ่มคนมากกว่า 200 คน 5.การถ่ายทำรายการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 6. อุทยานแห่งชาติ และสวนรุกขชาติ เฉพาะพื้นที่ที่ส่วนราชการกำหนดและสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้ 7. ชายหาด ชายทะเล เฉพาะพื้นที่ที่ส่วนราชการกำหนดและสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้ 8. สวนสนุก สวนน้ำ สนามเด็กเล่น ร้านเกมส์ 9. สนามกีฬา โรงยิม สถานที่ออกกำลังกาย สำหรับการฝึกซ้อมหรือแข่งขันกีฬา 10. การจัดแสดงคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ จัดแสดงสินค้า พื้นที่เกิน 20,000 ตารางเมตร 11. สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และ 12. สถานบริการอาบอบนวด




เตรียมตัว!