บราซิลอาการหนัก ยอดตายจากโควิด-19 พุ่งผ่าน 30,000 คน

2020-06-04 08:35:58

บราซิลอาการหนัก   ยอดตายจากโควิด-19 พุ่งผ่าน 30,000 คน

Advertisement

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบราซิล รุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุด จำนวนผู้เสียชีวิตทะลุ 30,000 คนไปแล้วเรียบร้อย ขณะที่ ทั่วภูมิภาคลาตินอเมริกายังถูกรุมเร้าจากการระบาดของไวรัสมรณะ ส่วนอิตาลี ประเทศที่เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดอย่างเลวร้ายที่สุดในยุโรป เปิดพรมแดนประเทศอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนนี้

ยุโรปผ่านการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากไปแล้ว ขณะนี้ไวรัสได้ลุกลามเข้าสู่ดินแดนลาตินอเมริกา โดยมีบราซิลเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 31,199 คน สูงสุดอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐ, อังกฤษและอิตาลี ส่วนผู้ติดเชื้อ 555,383 คน สูงสุดอันดับ 2 รองจากสหรัฐ

แม้สถิติที่เกิดขึ้นจะแสดงให้เห็นถึงความเลวร้ายของบราซิล แต่หลายรัฐในประเทศก็เริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ หลังบังคับใช้มานานหลายสัปดาห์ แม้ว่าจะมีคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ และบรรดานักระบาดวิทยาว่า ยังเร็วเกินไป พร้อมเตือนด้วยว่า ระบบสาธารณสุขในเปรู, ชิลีและเม็กซิโก อาจไม่สามารถรับมือได้ไหว เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง




ราฟาเอล กัลเลียซ ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดของมหาวิทยาลัยชื่อดังในนครริโอ เดอ เจเนโร กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ ไม่ได้ต่างจากการสาดน้ำมันเข้ากองเพลิง ยิ่งจะทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น

ส่วนในยุโรป ประเทศส่วนใหญ่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสเริ่มลดลง ต่างก็พากันผ่อนคลายล็อคดาวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากมาตรการปิดประเทศ โดยอิตาลีเริ่มเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วยุโรปในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังล็อคดาวน์ 3 เดือน ด้วยความหวังว่าจะฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวว่า นักท่องเที่ยวจะยังไม่กล้าเดินทางเข้าอิตาลี ที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 กว่า 33,000 คน



โรงเรีย, สระว่ายน้ำ, ผับและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการทั่วยุโรปเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นก็พุ่งรับการเคลื่อนไหวดังกล่าว แม้ว่าจะมีความหวาดกลัวว่าจะเกิดการระบาดระลอก 2 โดยกรีซต้องระงับเที่ยวบินโดยสารจากกาตาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มอีกจากผู้โดยสารบนเที่ยวบินจากกรุงโดอา มายังกรุงเอเธนส์

ขณะนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก อยู่ที่เกือบ 400,000 คน และผู้ติดเชื้อมากกว่า 6.3 ล้านคนแล้ว ขณะนี้ ความสนใจไปอยู่ที่ลาตินอเมริกา ซึ่งในสัปดาห์นี้ มีผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านคนแล้ว โดยบราซิลมีผู้ติดเชื้อเกินครึ่ง ขณะที่ บรรดาผู้เชี่ยวชาญกลัวว่าการประท้วงใหญ่ของประชาชนเพื่อแสดงพลังต่อต้าน กรณีตำรวจฆ่าจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวดำ ในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา สหรัฐ อาจจุดชนวนให้การระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงมากขึ้น

เม็กซิโกเริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้งแล้วด้วย หลังล็อคดาวน์กว่า 2 เดือน อนุญาตให้รื้อฟื้นการผลิตรถยนต์, เหมืองแร่และการก่อสร้างอีกครั้ง ส่วนในเวเนซุเอลา การระบาดของไวรัส บีบให้คู่แข่งทางการเมือง ต้องหันหน้ามาร่วมมือกัน โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ลงนามในข้อตกลงกับนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งอ้างตนว่าเป็นประธานาธิบดี เพื่อร่วมกันระดมทุกสรรพกำลังมาแก้ปัญหาการระบาดของไวรัส



ขณะเดียวกัน มีนักข่าวอย่างน้อย 20 คน เสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสในเปรู สวนใหญ่ติดเชื้อขณะเข้าไปรายงานข่าวการระบาดของไวรัส โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันเพียงพอ เปรูเป็นประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลาตินอเมริกา รองจากบราซิล มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 170,000 คน และเสียชีวิต 4,600 คน