นายกฯ ลงพื้นที่นครพนม พัฒนาเกษตร-คมนาคม

2017-03-27 14:15:34

นายกฯ ลงพื้นที่นครพนม พัฒนาเกษตร-คมนาคม

Advertisement

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นพบปะชาวบ้าน อ.เรณูนคร จ.นครพนม  โดยรัฐบาลได้งบประมาณกระทรวงคมนาคมพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงไทยลาวเวียดนามให้เป็นประตูอุตสาหกรรม พร้อมแนะเกษตรกรในพื้นที่ปลูกพืชอื่นๆสร้างรายได้ให้มากขึ้น


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานจังหวัดนครพนมแล้ว พร้อมด้วย พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี , นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  , พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงพาณิชย์ , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  
โดยนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางพบปะกับประชาชน ณ โรงเรียนบ้านนาโดนใหม่ ตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร ที่ให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีโครงการที่จะปรับและพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องของการเกษตรกรรม การบริหารจัดการน้ำ ความมั่นคง และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาแบบเดิมได้ และจะต้องมีการบริหารราชการทุกภูมิภาคร่วมกัน
ขณะที่รัฐบาล ได้ให้งบประมาณกับกระทรวง คมนาคมในการขยาย พัฒนาเส้นทาง ให้เชื่อมโยงด้านการคมนาคมไทย ลาว เวียดนาม ให้เป็นประตูอุตสาหกรรม แต่จะต้องมีกฎหมายและกติกาของทุกประเทศร่วมกัน


นายกรัฐมนตรียังระบุถึงเกษตรกรในพื้นที่ จ.นครพนม ที่ ควรทำเกษตรแปลงใหญ่นอกเหนือจากการปลูกพืชผักสวนครัวภายในพื้นที่อยู่อาศัยและควรหาการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมอื่นๆให้เหมาะสมกับในพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้ชีวิตบนความพอเพียงที่จะเป็นพื้นฐานในการ พัฒนาประเทศให้อยู่กับความพอเพียงได้ และควรใช้เกษตรอินทรีย์ลดการใช้สารเคมี
พร้อมขออย่ากังวลเรื่องของ โรดแมป ซึ่งรัฐบาลได้เขียนกรอบระยะเวลาไว้ 20 ปี ที่รัฐบาลนี้จะต้องมีการพัฒนาตนเองได้ภายในห้าปีก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นคงลดความเหลื่อมล้ำในส้งคม
นายกรัฐมนตรียังตอบโต้กรณี ข้อกล่าวหา การละเมิดสิทธิมนุษยชน และ การไม่เป็นประชาธิปไตย ว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของพวกพ้อง และทำให้ประเทศเสียหายขาดความน่าเชื่อถือ และ การกระทำของคนที่ยังเคลื่อนไหวในต่างประเทศที่พยายามกดดันรัฐบาลในขณะนี้  ไม่มีผลอะไร หากตนเองจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ต่อเมื่อถึงเวลา ไม่สามารถยืนยันอะไรได้ แต่หากยิ่งไล่ก็จะยิ่งอยู่ ไม่ไปไหน และกล่าวย้ำ 5ปีต่อไป หากคนไทยไม่ดีขึ้นประเทศอันตรายแน่ พร้อมยืนยันจะไม่ทรยศต่อรอยยิ้มของประชาชน
ภายหลังที่นายกรัฐได้พบปะกับประชาชน ได้มีการเยี่ยมชมนิทรรศการการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่จังหวัดนครพนมรวมถึง นโยบาย การพัฒนาในพื้นที่ดังต่างของรัฐบาล พร้อมกันนี้ได้มีการปลูกต้นกันเกรา ภายในโรงเรียนบ้านนาโดนใหม่ ด้วย