"เกียรติ"ชี้กรณี "จอร์จ ฟลอยด์" ฟางเส้นสุดท้ายของปัญหาความไม่เท่าเทียมที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกา
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจ Kiat Sittheeamorn ระบุว่า จอร์จ ฟลอยด์…ฟางเส้นสุดท้ายของปัญหาความไม่เท่าเทียมที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ในเมืองมินนีแอโปลิส สหรัฐอเมริกา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีชายพยายามใช้แบงค์ปลอมซื้อของในร้านค้า จึงติดตามตัวจนพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายผิวดำ ชื่อว่า “จอร์จ ฟลอยด์” ระหว่างควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้ใช้เข่ากดทับลำคอของฟลอยด์ยาวนานหลายนาที แม้ฟลอยด์จะพยายามบอกว่าหายใจไม่ออก แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุด ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นายที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็มิได้แสดงท่าทีที่จะพยายามยับยั้งหรือให้การช่วยเหลือกับฟลอยด์แต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่นาน ฟลอยด์ก็เสียชีวิตลง โดยล่าสุดผลการชันสูตร 2 แห่งยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตจากการฆาตกรรม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจเปรียบได้กับฟางเส้นสุดท้ายของปัญหาความไม่เท่าเทียมที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกา และต่อมากลายเป็นสาเหตุของการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการชุมนุมเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. จนปัจจุบันขยายตัวไปกว่า 30 เมืองแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่าย ๆ ถึงแม้ตำรวจทั้ง 4 นายที่เกี่ยวข้องจะถูกสั่งให้ออกราชการแล้วก็ตาม
ต้องจับตาดูกันต่อไปครับ ผมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่สถานการณ์บานปลายมาจนถึงขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้รับมือกับปัญหาครั้งนี้อย่างถูกต้องและรวดเร็วเพียงพอ หากเจ้าหน้าที่รัฐแสดงออกด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจต่อครอบครัวของฟลอยด์ และให้คำมั่นกับสังคมว่าความยุติธรรมต้องเกิดขึ้นโดยเร็วในเรื่องนี้ กระแสต่อต้านคงไม่ขยายตัวเร็วขนาดนี้
การประกาศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขู่จะใช้ทั้งกำลังตำรวจและทหาร จัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างเด็ดขาด ก็เปรียบเหมือนการสาดน้ำมันเข้ากองไฟที่กำลังไหม้อย่างร้อนแรง นอกจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม ในสหรัฐฯ เอง ก็ยังสูงที่สุดในโลก และเพิ่มขึ้นทุกวัน ..!!
ดังนั้นก็คงต้องแสดงความกังวลกันตรงนี้ เพราะไม่ว่าจะชอบหรือไม่..? เห็นด้วยหรือไม่..? สหรัฐก็ยังเป็นประเทศมหาอำนาจที่สำคัญประเทศหนึ่งในโลกใบนี้ ในฐานะเพื่อนร่วมโลก ก็คงต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจประชาชนในสหรัฐทุกคน เพราะเราไม่อยากเห็นประเทศไหนต้องเผชิญกับปัญหาที่รุนแรงเช่นนี้ครับ..!!
สุดท้ายผมก็อยากจะแชร์ภาพรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่ทั้งทรงพลังและน่าประทับใจ เป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจในไมอามี คุกเข่า ‘Kneel in solidarity’ ซึ่งจะตีความกันอย่างไรก็แล้วแต่ ที่สำคัญช่วยลดอุณหภูมิได้ไม่น้อยเลยครับ..!!!!
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์จะจบลงโดยดีและโดยเร็วครับ....!!!!
ขอบคุณเพจ Kiat Sittheeamorn