"เทพไท" วอน สธ.จัดงบซื้อเครื่องมือให้ อสม.ในการปฎิบัติงานดูแลสุขภาพของประชาชน ทั้งเครื่องแบบตรวจการ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด เครื่องชั่งน้ำหนัก ปรอทวัดไข้ กระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีนโยบายบริหารงบประมาณ 45,000 ล้านบาท สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขของประเทศ โดย 1. เพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม. คนละ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 จนถึง ก.ย. 2564 และ2.เพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ด้วยการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ วงเงิน 2 แสนบาท ว่า ต้องขอขอบคุณ รมว.สาธารณสุข ที่เห็นความสำคัญของบุคลากรด้านสาธารณสุขในชนบท ที่ถูกทอดทิ้งและเสียโอกาสในด้านการพัฒนามานานพอสมควร แต่ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งนี้ ได้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บุคลากรด้านสาธารณสุขในชนบท คือด่านหน้าในการต่อสู้กับการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายชื่นชมและเห็นความสำคัญ จึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และสนับสนุนด้านงบประมาณที่ขาดแคลนในหลายๆด้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพจารณา พ.ร.ก.กู้เงินที่ผ่านมา ตนจึงได้อภิปรายเรียกร้องปรับค่าตอบแทนให้กับ อสม.ต่อรัฐบาล เพื่อขอปรับค่าตอบแทนให้แก่ อสม.เดือนละ 1,500 บาท แต่การที่ รมว.สาธารณสุข มีนโยบายเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม.คนละ 500 บาท เป็นเวลา 19 เดือนนั้น อาจจะไม่ตรงเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริง แต่ก็ถือว่าเป็นการเยียวยาหรือช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของตนนั้น มีความต้องการให้รัฐบาลปรับค่าตอบแทน ให้แก่ อสม.ทุกคนเป็นรายเดือน เดือนละ 1,500 บาทตลอดไป และหวังว่ากระทรวงสาธารณสุขคงจัดเป็นแผนงานงบประมาณ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,500บาท ให้แก่ อสม.ทั่วประเทศ จำนวน 1,040,000คน ในปีงบประมาณปี 2564 อย่างแน่นอน
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการเพิ่มศักยภาพของ รพ.สต. ในวงเงินงบประมาณแห่งละ 2 แสนบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ และคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคนนั้น เห็นว่าเป็นวงเงินงบประมาณที่เหมาะสม แต่อยากให้ กระทรวงสาธารณสุขจัดงบประมาณอีกส่วนหนึ่ง เพื่อจัดซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ให้แก่ อสม.เพื่อใช้ในการปฎิบัติงานดูแลสุขภาพของสมาชิกตามครัวเรือนต่างๆ เช่น เครื่องแบบตรวจการ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด เครื่องชั่งน้ำหนัก ปรอทวัดไข้ และกระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์ จึงอยากจะให้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด