นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเน็ตไอดอลคนดัง "สิตางศุ์ บัวทอง" เจ้าของตำนานสุดเริด "ส้มหยุด" ที่ในโลกออนไลน์มีแต่คนคัฟเวอร์เสียง ล่าสุดเจ้าตัวได้ควงสามี "พี่ตี๋" มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW พร้อมเผยหลังจากเห็นภาพตัวเองติดฝาผนังโบสถ์ว่า
แม่จ๋ารูปแม่ไปติดอยู่บนผนังโบสถ์?
แม่สิตางศุ์ : แบบอ่านข่าว ดูกับเขา เขาน้ำตาไหลเลย ว่าเป็นไปไม่ได้ผู้หญิงตลาดล่างอย่างฉันไปอยู่ในพุทธประวัติ ศิลปินผู้วาดเขาให้ข่าวว่า เผื่ออีก 60 ปีข้างหน้าใครถาม เขาเป็นคนวาดในยุคแม่สิตางศุ์ ส้มหยุด ยุคแม่สิตางศุ์ส้มหยุด มันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้เป็นขนาดนั้น ฉันแค่คนธรรมดา ฉันแค่แม่บ้านขายของออนไลน์
พี่ตี๋รู้สึกยังไงบ้าง?
พี่ตี๋ : ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะโด่งดังขนาดนั้น
ก่อนที่เขาได้วาดภาพแม่ในโบสถ์ แม่ได้ทราบก่อนไหม?
แม่สิตางศุ์ : ไม่ทราบเรื่อง มารู้ในข่าวตอนเย็น เราตกใจ
ก่อนที่จะมีรูปวาดบนโบสถ์แม่ฝันถึงอะไร?
แม่สิตางศุ์ : ตั้งแต่เริ่มดัง แล้วเริ่มรีวิววัตถุมงคลในโลกออนไลน์ แล้วฉันเป็นคนเห็นผีตั้งแต่เด็ก ตอนหลังเราเห็นว่าเราอยู่บนหลังม้า คือพระอาจารย์จะมาบอกว่าแม่เป็นแม่เมืองตรงนู้น คือเรื่องพวกนี้เราสืบหาโดยที่สปอนเซอร์เราเขาโฆษณาในเฟซบุ๊ก เขาเป็นคนบอกเรา แล้วเราสวดมนต์ทุกวัน เราเห็นว่าเราอยู่บนหลังม้า
ตอนนี้มีกุมารกี่องค์?
แม่สิตางศุ์ : กุมารยังไงไม่เท่าไหร่ แต่ตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านใหม่ 6 เดือนที่นิมิตรใหม่ มีผีผู้หญิงผมยาว เราก็รู้อยู่แล้ว เรารู้ แต่เราชอบบ้านหลังนี้ เราก็เอา ซึ่งตอนที่หมูบ้านนี้สร้าง แล้วบ้านหลังนี้มีคนมาผูกคอตายผู้หญิง แล้ววิญาณผู้หญิง คือเฮียเจ้าของบ้านเคยเปิดให้เช่า 3 ครั้ง แล้วเราก็เหมือนโดนปลุกมาสวดมนต์ตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ทุกวันตั้งแต่ย้ายมา ตอนแรกมีแต่เลือดตก ยางออก แต่พอเราเริ่มทำ เริ่มปรับปรุง งานมา ทีนี้ก็กลัวเลย
เคยเจอแบบเป็นๆ เลยไหม?
แม่สิตางศุ์ : ไม่เคย แต่เวลาเราพูดอะไรที่ห้องพระ ห้องที่ผีผู้หญิงยืนตรงระเบียง เราทำเป็นห้องพระเลย เราสวดมนตร์คืนนั้นที่เราทำพิธีรำถวาย เราก็จุดธูป เพิ่งจุดธูปครั้งแรกที่เขาผูกคอตาย แล้วเรารู้สึกว่าเขาต้องการบ้าน เราก็ให้ลูกน้องตระเวนหาเรือนไทย 3 วัน ที่ไม่ใช่ศาล
ฝันเห็นพญานาคด้วยใช่ไหม?
แม่สิตางศุ์ : พญานาคนี่อยู่กันมาสักพักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่เรารีวิชวเรื่ององค์พญานาค เราไปรำถวายที่ขอนแก่นนี่หลายปี ตั้งแต่ดังช่วงสะบัดต่อ
แม่เชื่อในเรื่องพญานาคแล้วพี่ตี๋เชื่อด้วยไหม?
พี่ตี๋ : เชื่อครับ ก็เมื่อไม่กี่วันนี้ขับรถเข้าหมู่บ้าน รถกระบะมันถอยหลังมาโดนรถผม วันนั้นไหว้พระด้วย ถ้าไม่ไหว้คงโดนหนักกว่านั้น
แม่สิตางศุ์ : ไม่น่าเชื่อ เขาขับช้าๆ มันทิ่มมาตรงประตู เขาโทร.มาว่านี่สองตัวเขาเห่าลั่น เรากลับจากแกรมมี่เย็นนั้นรถก็ติด ฉันอกจะแตกเลย ตอนนี้สั่งคนมาเฝ้าบ้านเพิ่มแล้ว เพราะเราหวงหมา เรามีลูกเป็นหมา
เฮงจริงๆ แต่เกือบไม่ได้มีแม่สิตางศุ์ในวันนี้ เห็นว่าเคยคิดจะฆ่าตัวตาย?
แม่สิตางศุ์ : มันเป็นแผลของครอบครัว มันเป็นแผลของตัวฉัน คือเราอยากนำเสนอแต่ความบันเทิง เพราะว่าที่บ้าน ที่เขาบอกว่าทำไมเล่าไม่ตรงกัน ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็หลบบางเรื่องตอนแม่ฉันโดนฟ้องล้มละลาย ตอนนั้นแบบเราลำบากกันมากนะคะ เพราะเราลูกคนละพ่อ แล้วพ่อฉันเป็นนายทหาร แล้วพ่อเลี้ยงเขาอยู่ต่างจังหวัด แต่น้องมันลูกพ่อเลี้ยง คือในความที่เราเป็นพี่ ทุกคนแยกย้ายกันไปหมด ฉันโดนยึด แล้วแม่ต้องหลบคดี สมัยนั้นปลูกตึกขายกันเอง มันเรื่องเมื่อ 40 ปีก่อน นี่ฉันอยู่มา 58 ปีแล้ว ตอนนั้นฉันอยู่ปี 1 แต่ต้องคิดก่อน ตอนนั้นฉันไม่เคยลำบากเลยนะ นั่งรถเมลล์ยังไม่เป็น ต้องหอบน้อง 2-3 คน มาอยู่ห้องเช่า เราไม่เคยชิน ฉันเดินหางานแบบไม่ไหวแล้วนะ แล้วคืนนั้นน้องหลับหมด ฉันเดินจากบางขุนนนท์ไปสะพานพระปิ่นเกล้า เมื่อ 40 ปีก่อน ซึ่งสะพานพระปิ่นเกล้านี่ดังเรื่องคนไปกระโดดฆ่าตัวตายบ่อย เราก็ไปยืนบนสะพาน แล้วไม่ได้ พรุ่งนี้น้องยังเรียนประถมอยู่เลย เดี๋ยวเช้ามามันจะยิ่งกว่าเราไหม ฉันเดินกลับมาอีก หลังจากนั้น มี 10, 20 ไปซื้อ พวกแม่ค้าเขารู้กันหมดนะว่าเด็กมันไม่เคยลำบาก คือดูผิวพรรณก็รู้
ตอนนั้นน้อยใจในโชคชะตาไหม?
แม่สิตางศุ์ : ไม่เคยน้อยใจนะ คิดอย่างเดียวน้องฉันต้องรอดก่อน บางวันฉันไม่ได้กินข้าว ไปทำงาน ฉันต้องเซฟทุกบาท เพิ่งรู้ว่าเงินมันมีค่า เรื่องพวกนี้ยังไม่อยากเล่าให้ใครฟัง แต่จะเล่าเพื่อเป็นวิทยาทาน เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ท้อ จะบอกว่าเราอย่าเพิ่งทำร้ายตัวเอง ถ้าเรารู้สึกว่ามีใครทำร้ายเรา การทำร้ายตัวเองเพิ่มเนี่ย เธอคิดดูคนที่รักเธอจะอยู่ยังไง
แม่ให้กำลังใจคนที่ท้อแท้หน่อย?
แม่สิตางศุ์ : ดูตัวอย่างแม่นะคะ แม่เคยผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว ในวันที่เรารู้สึกไม่มีใคร เราต้องยืนหยัด เราต้องท่องเลยว่ายังมีตัวฉันเอง ตัวเรานี่แหละที่สร้างพลังภายในเวลาเราท้ออย่าไปรอความหวังจากใคร ตัวเราเองคือข้าวคลุกน้ำปลาก็ได้ไหม มาม่าห่อหนึ่งก็ได้ เราต้องอยู่ให้ได้ ฉันเคยเหมือนคลานในขณะที่ฉันโดนเฟกนิวส์ ในขณะที่คนเกลียดชังฉัน ฉันยังเปิดไลฟ์ทำบ้าๆ บอๆ จนฉันมีทุกวันนี้ ฉันขึ้นมาอีก ส้มหยุด ต้องกราบขอบคุณสวรรค์ และทุกคนที่เชียร์แม่ แล้วใครท้ออยู่อย่าทำร้ายตัวเอง ถ้าจะบอกให้สู้ต่อมันก็ง่ายไป แต่ฉันจะบอกว่าคิดซะว่าถ้ามันหมดกรรมช่วงนี้ เหมือนที่แม่ทนมา เราจะต้องเจอแสงสว่างเหมือนที่ฉันเจอ ฉันเป็นเน็ตไอดอลช่วงนั้น แล้วหลังจากนั้นไม่มีรายการเชิญฉันเลย ฉันโดนขยี้โดยที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันยังทนมาตั้งหลายปี ฉันทนในขณะที่โดนบูลลี่ โดนแกล้ง โดนคืนงาน ผัวฉันอยู่โรงพยาบาล ตอนฉันดังดังสะบัดต่อแล้ว ฉันไปกินกล้วยที่ไหว้วันละ 2 ลูก เพื่อเอาเงินไป ในขณะที่คนชั่วๆ ทั้งหลายก็เข้ามารุม ใครจ้างงานฉันก็เข้ามาถล่ม ฉันไม่เคยด่ากลับ ในขณะที่ฉันโดนเกียจชังจากเรื่องที่คนมันอิจฉา
แม่สิตางศุ์ : เมื่อก่อนจากที่เรามีเงิน เราอยากได้อะไร เราก็ซื้อ ในกลางวันเราไปช่วยงานแม่ เราก็เป็นผู้ชาย เราไม่เคยแต่งสาว เราก็เหมือนคนคุมงานก่อสร้าง แต่กลางคืน ตอนหลังช่วงอายุ 30 แล้ว เราก็ดีแตกบ้าง ตอนนั้นเริ่มรู้จักพวกกระเทยที่ตอนนั้นหน้าท้องสวย ไม่มีนม เริ่มซื้อผู้ชาย ซื้อไป ซื้อมาแล้วเราไปรักเขา แล้วเราก็จะเป็นบ้า เป็นอะไรนั่นแหละ แล้วมาเจอตี๋ตอนไม่มีแม่แล้ว เราก็แต่งตัวเป็นสาวเต็มตัว คือชีวิตมันช้ำมาเยอะ เราก็อยากบริหารเสน่ห์ ตอนนั้นฉันแอนตี้เรื่องความดี ฉันไม่ทำความดีแล้ว ฉันทำงานฟรีแลนซ์ไป พอกลางคืนก็ติดเหล้า ติดเที่ยว ติดยา ฉันเคยติดยา คืออยู่ในสังคมอีกสังคมหนึ่งแล้วมาเจอเขา จากที่ฉันหลอกเขามาจ่ายค่าบอล ตอนนั้นเขาขับรถรับจ้าง แต่ตอนเจอกันเขาเป็นยามแถวดอนเมือง เราเห็นเขาแล้วหลอกเงินเขามาหมดเลย แล้วเขากินมาม่า กินอะไร แล้วเพื่อนก็ด่าว่ามั่น สวยจังเลยนะมึง เพราะตี๋เขาก็หล่อ ก็เลยสงสาร เราก็เลยว่าจะตามหาความรักทำไม เราลองอยู่กับคนที่รักเราดูสิ ก็เนี่ยถ้าใครถาม การไปวิ่งตามคนที่เรารักเขา เหนื่อยเปล่า คือให้โอกาสตัวเองอยู่กับคนที่รักเรา เขาแก้ปัญหาให้หมดถึงแม้เขาจะเงินน้อย
หลงเสน่ห์อะไรแม่สิตางศุ์?
พี่ตี๋ : เขาเก่ง เขาใจดี ก็อยู่กันไปอย่างนั้น