อดีต กก.บห.พปชร.จี้ “อุตตม –สนธิรัตน์”อย่ายึดติดกับตำแหน่ง

2020-06-02 12:01:15

อดีต กก.บห.พปชร.จี้ “อุตตม –สนธิรัตน์”อย่ายึดติดกับตำแหน่ง

Advertisement

อดีตกรรมการบริหาร พปชร. จี้ “อุตตม –สนธิรัตน์”อย่ายึดติดกับตำแหน่ง  เชื่อหากยังอยู่ เลือกตั้งครั้งหน้าไม่เหลือ ส.ส. 

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส 1 ใน 18 กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ลาออกจากตำแหน่ง กล่าวถึงสาเหตุการลาออก ว่า เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพที่มั่นคง การจะเปลี่ยนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าและ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาพรรค เป็นเหตุผลภายในพรรค ส่วนที่ตนมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคนั้น ส่วนตัวไม่ได้มีความสนิทสนมหรือมีการชมชอบในทางการเมืองมาก่อนไม่เคยรู้จักกัน สิ่งที่ทำในวันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอะไร ตนว่าการที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ได้เดินต่อไปได้อย่างเข็มแข็ง เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่เหลือเพื่อน ส.ส. อยู่ต่อแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการบริหารงานภายในพรรค เป็นเรื่องภายในบ้าน ไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมาย คดโกงใคร หรือผมไปทำอะไรที่ผิดต่อประเทศชาติ คิดว่าการกระทำในวันนี้เป็นเรื่องของความกล้าหาญกล้าตัดสินใจให้ ส.ส. และสมาชิกพรรคอยู่ต่อกันอย่างแข็งแรงสามัคคีเพื่อทำงานให้ชาติบ้านเมือง

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ไม่ควรยึดติดกับตำแหน่งนี้ เพราะถ้าทุกคนในกรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่ยอมรับ ก็ควรเป็นสุภาพบุรุษ ถ้าท่านยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย ท่านต้องหยุดแล้วไปพิจารณาวิเคราะห์ตัวเองมากกว่าว่าอดีตที่ผ่านมาท่านทำอะไรไว้ถึงทำให้กรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่เอาท่าน ตามระบบประชาธิปไตย คือต้องยอมรับเสียงส่วนมาก ไม่ใช่คนนั้นคนนี้มาพูดว่า เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์แบบนี้ ตนเรียนว่า ธุรกิจ กิจการห้างร้านต่างๆก็ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้อยู่ได้ พรรคพลังประชารัฐเองก็คิดเหมือนกันว่าถ้าจะให้อยู่ต่อไปได้ และอยู่โดยมีคุณภาพ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หัวหน้าเลขาพรรค ทำไมต้องยึดติดกับตำแหน่ง