เรืองไกร ยื่นหนังสือสรรพากร ยุติเก็บภาษีชินคอร์ป

2017-03-27 13:40:31

เรืองไกร ยื่นหนังสือสรรพากร ยุติเก็บภาษีชินคอร์ป

Advertisement

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หนึ่งในทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อสรรพากร ยุติการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปจากนายทักษิณทันที เหตุเพราะหมดอายุความไปแล้ว
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หนึ่งในทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ยุติการตรวจสอบ และประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่าหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น ที่ขายให้เทมาเส็กเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 นั้นเป็นของนายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน  จะต้องเสียภาษีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (8) ซึ่งจะต้องยื่นแบบประเมินเสียภาษีภายใน 30 กันยายน 2549 ซึ่งมีอายุ 10 ปี จึงถือว่าคดีนี้หมดอายุความไปแล้ว 6 เดือน ตั้งแต่ 30 กันยายน 2559 แต่การตีความของรัฐบาลตามมติ ครม. วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาให้เรียกเก็บภาษีกับนายทักษิณ ตามคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง เพราะนายพานทองแท้ และ นางสาวพิณทองทา บุตรชายบุตรสาว เป็นผู้ถือหุ้นแทนเท่านั้น นายทักษิณจึงต้องเสียภาษีเอง ตามมาตรา 40 (2) ภายใน 31 มีนาคมนี้ ดังนั้นหากกรมสรรพากรยังจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 และกฎหมาย ปปช. มาตรา 123 และในฐานะที่เคยทำงานร่วมกับ คตส. จึงขอเตือนไปยังกรมสรรพากรให้ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวทันที
สำหรับการที่นายเรืองไกรมายื่นหนังสือในวันนี้ยังไม่ใช่ในฐานะตัวแทนนายทักษิณ แต่มาเป็นการส่วนตัวเพื่อที่ต่อสู้คดีและโต้แย้งแทนนายทักษิณ ซึ่งคาดว่าจะทำให้นายทักษิณมอบอำนาจให้ตนเป็นตัวแทนในการต่อสู้คดีแทนอย่างก็ตามเชื่อว่า การเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณในครั้งนี้ มีผู้ที่เกี่ยวยังบางส่วนยังมีอคติต่อนายทักษิณ จากการที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจนถึงขณะนี้ นายทักษิณและทีมกฎหมายยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งประเมินภาษีจากกรมสรรพากร